สามวันสองคืน รัก.เลิก.เลย (2013) ความรักที่ไม่ชัดเจน

เป็นภาพยนตร์ไทยอีกเรื่องที่ได้ดูเพราะ “ความบังเอิญ” กับสามวันสองคืน รัก.เลิก.เลย เรื่องราวของ กิ๊ฟสาวน้อยที่ต้องตัดสินใจบอกเลิกแฟนของเธออย่าง โอ บนภูกระดึง
อย่างที่บอกคือ “ความบังเอิญ” ทำให้ได้ดูหนังเรื่องนี้ เพราะมันเป็นหนังที่เก่า หากถามว่ามันธรรมดาๆ ไหมในเรื่องของพลอต อาจจะมีธรรมดาบ้าง ไม่สุดบ้าง เพราะคงจะเกี่ยวกับเป็นผลงานของผู้กำกับมือใหม่ใน ขณะนั้น และนักแสดงนำที่เป็นโนเนมหน้าใหม่เกือบทั้งหมด ทั้งสถานการณ์ของเรื่องที่เป็น รอมคอม (Romantic -Comedy) ช่วงบนภูกระดึงปรากฏมากมาย แบบเหมือนจะมีสาระ หรือไม่มีบ้างก็ตาม แต่ประเด็นหลักที่พาคนดูอย่างเราที่กำลัง ครึ่งๆ กลางๆ ว่าจะดูต่อดี หรือปิดหนีดีไหม คือ ภาวะของจุดเริ่มต้นของเรื่อง ที่พาเราและตัวละครที่เป็นจุดศูนย์กลางอย่าง กิ๊ฟ (พริษฐ์ชยาดา พิริยะเมธา) กับสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก กึ่งๆ การพาเอาใจช่วย และศึกษาตัวละครไป
หนังว่าด้วยเรื่องของ กิ๊ฟ สาวสวย Wutthisak Clinic (โฆษณาปรากฏมาเพียบ ตั้งแต่ เครื่องดื่ม สถานที่ รถยนต์ ไปจนถึงประกันชีวิต) ที่มีกิ๊กหนุ่มอย่าง “พี่ริว” ที่ หล่อ รวย สมาร์ท และจริงใจ เริ่มต้องการขยับความสัมพันธ์จากคนที่คบหาดูใจเป็นแฟนของเธอ ซึ่งมันก็โอเคสำหรับสาวโสดทุกคนครับ
แต่กิ๊ฟไม่ใช่สาวโสด เพราะอุปสรรคหลักๆ ของการตัดสินใจนี้คือแฟนปัจจุบันที่อยู่กินกับเธอที่คอนโด นั่นคือ โอ หนุ่มศิลปินนักวาดภาพประกอบมาดเซอร์ไส้แห้ง ที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียน (ณัฐคม ตังอังสนากุล) ที่มีทุกอย่างตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับพี่ริว จะมีก็แค่ทั้งคู่เป็น คนดี และรักเธอเหมือนกัน
หลังจากปรึกษาปัญหาชีวิตพักใหญ่ๆ เข้าจากเพื่อนร่วมงานก็เลยตัดสินใจเลือก พี่ริว และจำเป็นจะต้องบอกเลิก โอ ซะทีเพียงแค่หาจังหวะเหมาะๆ ก็เลยเลือกการเดินทางไปเที่ยวกับสองต่อสอง แต่ฝ่ายชายหนุ่มอย่างโอ กลับพาไปขึ้นภูกระดึง ซะยังงั้นเพราะคิดว่า มันสวยดี และอยากให้กิ๊ฟ ไปดูวิวข้างบนสวยๆ ที่นั่น จึงกลายเป็นการเดินทางศึกษา และทบทวนความสัมพันธ์ของคน 2 คนที่กำลังลังเลว่า “เลิก” หรือ “ไม่เลิก” ดี ผ่านฉากหลังคือ Road Movie พาเที่ยว อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย
ประเด็นถ้าให้เล่าถึงบรรทัดนี้ อาจจะต้องขออนุญาติสปอยล์ (Spoil) เพราะคิดว่าหลายคน คงจะบอกว่าเป็นไปตามสถานการณ์หนังทั่วๆ ไปแนว รอมคอม ธรรมดาๆ แต่เอาเข้าจริง หนังฟอร์มเล็กเรื่องนี้เข้าใจตัวเองดีว่า เมื่อทุนมันน้อย ก็เอาประเด็นความรู้สึกแบบ Real Real มาเล่นซะเลยสิ และนั่นคือจุดสำคัญที่ทำให้ผมชอบหนังเรื่องนี้ในช่วงท้ายเรื่อง
เมื่อฝ่ายหนึ่งต้องการบอกรัก อีกฝ่ายต้องการไปบอกเลิก ไปๆ มากลับเป็นการเรียนรู้ให้เข้าใจกันและกัน และหนังก็ทำร้ายจิตใจคนดูอย่างเราไปพร้อมๆ กับกิ๊ฟ โดยการให้โอ เป็นคนบอกเลิกโดยไม่มีสาเหตุซะเองในวันกลับ ซึ่งถือว่าทำได้ สะเทือนใจสุดๆ กับสถานการณ์ที่ตัวละครอย่างกิ๊ฟที่เดินทางกับเราตลอดเวลาต้องพบ
จนกระทั่งเราได้ทราบเหตุผลต่างๆ นาๆ ที่ โอ ได้ให้ไว้ในจดหมาย ก็ยิ่งทำให้ มิติตัวละครทั้ง สองตัวนั้นชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิมจากตอนเริ่มเรื่อง ก็ยิ่งทำให้เข้าใจตัวละครอย่างโอมากขึ้นเรื่อยๆ ซ้ำยังเข้าใจ 2 สาวเลสเบี้ยนเพื่อนโอ และพี่ริว อีกต่างๆ หากเพราะทั้งหมดตัวละครที่ว่ามาคือ คนที่ “ชัดเจน” กับความรัก และความรู้สีกของตัวเอง
แตกต่างกับ กิ๊ฟ ที่เป็นเพียงคนเดียวที่ “ไม่ชัดเจน” กับความรัก และความรู้สึกของตัวเอง
ก็กลายเป็นว่าเป็นหนังฟอร์มเล็กไว้ดูคั่นเวลา แนว รอมคอม โร๊ดมูฟวี่ และ เศร้าสะเทือนใจ เรื่องหนึ่งที่ ชอบ เพราะความบังเอิญ แม้ภาพรวมของหนังดูมี น่าเบื่อบ้าง ฝืดบ้าง แต่เอาเข้าจริงๆ การสรุปประเด็น และใจความของคนทำที่พยายามจะสื่อสารออกมาให้คนดูนั้นกลับสอบผ่านทำได้ดีกว่าหนังไทยฟอร์มใหญ่ๆ หลายๆ เรื่องครับ
คะแนน: 7.5/10
การบอกเลิกคนที่เรารักมาก มันยากกว่าการบอกรักอีกนะครับ ว่าไหม