หากว่าใครต้องการอยากจะรู้ว่าการสร้างหนังแบบไหนให้น่าสนใจ และน่าติดตาม A Hard Day ภาพยนตร์ทริลเลอร์สัญชาติเกาหลีเรื่องนี้จะพาเราไปดูเทคนิคการเล่าเรื่องและผูกปม
อย่างที่ว่าครับ การเล่าเรื่องเป็นเทคนิคหนึ่งที่จะทำให้หนังดำเนินไปอย่างน่าสนใจ A Hard Day สามารถผ่านจุดนั้นไปได้แบบมีมาตรฐาน แต่ก็มีข้อบกพร่องตรงที่ มีของจะปล่อยมาเกินไปทำให้ ตอนท้ายของเรื่องกลับเป็นแผลเป็นขนาดใหญ่ แต่ก็ยังพอให้กับความสนุกที่พาคนดูลุ้นระทึกตลอด 2 ชม. กว่าๆ
การดำเนินเรื่องนั้นถูกเล่าผ่านสถานการณ์ที่เรียกได้ว่า โคตรซวย ของนักสืบโค (Lee Sun‑kyun) ที่เราจะไม่รู้ที่มาที่ไปเลยในช่วงเปิดเรื่อง รู้เพียงแค่ ขับรถและโทรศัพท์ โดยมีบทสนทนาปลายสายบอกว่า เค้ากำลังหนีออกมาจากงานศพของแม่ เพราะธุระสำคัญบางอย่าง จนกระทั่ง 5 นาทีแรกนั้นได้ขับรถชนชายนิรนามคนหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ เกิดภาวะคับขันที่เจ้าหน้าที่สายตรวจขับรถมาเขาจึงตัดสินใจเอาศพของชายนิรนามคนนั้นไว้หลังรถ แล้วก็เดินทางต่อ หลังจากนั้นความซวยก็ประเดประดัง เป็นต้นว่า
ขับรถเจอด่านตรวจ แล้วภายหลังมาทราบว่าตัวเอกคือ ตำรวจ ปราบปรามสืบสวนที่มีปัญหารับสินบนจัดการแอบเอาศพชายนิรนาม ไปซุกกับโลงศพของแม่ ด้วยสถานการณ์แบบหนัง Mission Impossible
พอจัดการศพชายนิรนามได้ ปรากฏว่า ชายนิรนามคนนั้นคือคนร้ายที่จะทำให้เขา และคนทั้งหน่วยสามารถกูชื่อเสียงจากเหตุการณ์รับสินบน แต่บังเอิญเอาศพไปฝังไว้แล้ว ก็เกิดสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
หลังๆ มีการแบล็คเมลเหตุการณ์นี้จากชายนรินามอีกคน ซึ่งให้ชิงไหวพริบกันสุดๆ
ตลอดเรื่อง 1:30 ชัวโมงคือความสนุก และลุ้น แต่หลังจากเหตุการณ์ตอนก่อนจบ ที่เจรจากันที่ริมทะเลสาบ จุดนั้นผมว่านั่นคือการจบเรื่องที่สมบูรณ์แล้ว
แต่เพราะผู้กำกับ และคนเขียนบทคงมีของที่อยากจะปล่อย (ฉากเหนี่ยวไกปืน) มันเลยกลายเป็น ทำให้หนังที่กำลังอร่อย กลับหวางเกินไปตอนจบ หรือเค็มเกินไปตอนจบ สรุปคือไม่ค่อยพอดีเท่าไรตอนจบ
แต่ถ้าดูโดยรวมแล้วก็ถือว่าไม่น่าพลาดครับ หาเวลานั่งลุ้นสัก 2 ชม. ในวันหยุดก็จะได้หนังที่เป็นความบันเทิงจะจะแบบนี้กันเพลินๆ ได้เลย
คะแนน 8.5/10
