As the Light Goes Out (2014) หลงทางในควันไฟ

หนังดราม่าเรื่องราวของนักผจญเพลิงดีกรีรางวัลม้าทองคำกับ As the Light Goes Out ทีมดับเพลิงมหากาฬ ที่ว่าด้วยเหตุการณ์โรงไฟฟ้าระเบิดครั้งใหญ่ในฮ่องกง
เป็นอีกเรื่องที่นั่งรับชมจากแอพพลิเคชัน MonoMaxxx ให้คุ้มค่ารายเดือนที่เสียไปแต่ละเดือน ตัวหนังในแง่ของการได้รางวัลน่าจะเป็นเรื่องของ Visual Effect และ การลงทุนด้านการสร้างไฟ หรือเปลงเพลิงที่ดูยิ่งใหญ่ แต่ตรงกันข้ามในแง่ของดราม่านั้น As the Light Goes Out มีประเด็นแรกที่แข็งแร็งอยู่แล้วคือเรื่องของ ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนรัก 3 คน หนุ่ม เซียะ ถิงฟง, หยู เหวินเล่อ และ อัน จื้อเจี๋ย
ที่มีการเปิดประเด็นของการละเมิดคำสั่งภารกิจเมื่อ 1 ปีก่อน ที่ผลลัพธ์ว่าใครโกหกใครพูดจริงก็ยังไม่ได้คลี่คลาย เป็นเพียงความลับในใจระหว่างตัวละครเอก เซียะ ถิงฟง คนเดียวกับเหตุการณ์ใน 1 ปีต่อมาที่ อัน จื้อเจี๋ย เป็นหัวหน้าสถานีก้าวหน้าแซงเพื่อนรัก ทำให้ความสัมพันธ์ของเพื่อนรัก 3 คนต้องกระท่อนกระแท่น
ประกอบกับสภาวะที่ถูกปูมาแต่แรกว่า สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ไฟ แต่เป็นควัน และควันก้อนใหญ่ที่แหละที่จะทำให้เราสับสน กลัว และเกิดเป็นจินตนาการที่ทำให้เราไม่สามารถทำอะไรได้และตายไปกับมัน ดังนั้นก่อนจะชนะไฟต้องชนะควันก่อน ซึ่งควันที่ว่าก็คือจิตใจของตัวเองที่เข้ามาทดสอบ
และตัวเอกของเราก็ต้องเผชิญกับความถูกผิดในจิตใจในครั้งอดีตให้ต่อสู้กับมันในควันไฟ
สิ่งที่ต้องกุมขมับบเล็กน้อยคือ As the Light Goes Out กลับเพิ่มความเกินพอดีเข้าไปในหนังในแบบตั้งใจดราม่า หรือเข้าข่าย ดราม่าประดิษฐ์ ยัดเข้าไปให้กับตัวละครทั้งหมด รวมไปถึง นักผจญเพลิงหน้าใหม่ที่มาประจำกองที่รับบทโดย หู จุน เข้าไปเพิ่ม อาทิเช่น
- ตัวเอกถูกเพื่อนที่เป็นหัวหน้าสั่งย้าย
- ตัวรองอย่าง หยู เหวินเล่อ ก็มีลูกชายแล้วลูกชายไปติดในสถานการณ์เพลิงไหม้ในอาคารให้เข้าไปช่วยโดยการขัดคำสั่ง
- หู จุน มีปมกับลูกชายที่เสียชีวิตที่ประเทศจีน
- ตัวเอกถูกแฟนบอกเลิก
- หัวหน้าเป็นคนไม่กล้าออกคำสั่ง
และอีกหลายๆ เรื่องที่เป็นอะไรที่มาเยอะเกินไปทำให้ ดราม่าพลอตที่ปูมาแต่แรกนั้นเบาลงไปทันที และคลายปัญหาปมดราม่าแรกๆ ได้ในครึ่งเรื่อง แล้วยัดเรื่องของสถานการณ์เพลิงไหม้ครั้งใหญ่เข้าไป เหมือนดูหนัง 2 เรื่องไปโดยปริยาย
แต่ก็ใช่ว่า As the Light Goes Out จะแย่ไปเสียทีเดียว สถานการณ์และการแก้ปัญหาของตัวเอกและทีมในช่วงหลังนั้น หากมองในเรื่องของดราม่าประดิษฐ์เกินพอดีออกไป ฉากแอ็คชัน As the Light Goes Out ทำออกมาได้อย่างน่าตื่นเต้น และลุ้นระดับสร้างบันเทิงคาดเดาไม่ได้อยู่พอตัว ประกอบกับความเท่ของ เยิ่นต๊ะหัว ดารารุ่นเก๋าที่บทแสดงได้อย่างตรงไปตรงมาและเท่ที่สุดเป็นตัวชูโรงให้หนังน่าสนใจ
คะแนน 6.5/10 สำหรับความบันเทิงยามว่างถือว่าโอเค, แต่ถ้ามองจุดอื่นผมว่า ไม่ใช่ตัวเอกคนเดียวที่หลงทางในควันไฟ แต่ตัวหนังเองก็แอบหลงทางไปครึ่งเรื่องในควันไฟเช่นกันกับการปล่อยของเกินพอดี