Badlands (1973) ว่าด้วยความเพ้อฝันวาดหวานอเมริกันดรีม

ในช่วงหลังผมเริ่มหาเวลาได้ยากในการเอนหลังนั่งดูหนังดีๆ พอมีเวลาก็ต้องหยิบของดีมาดู ผลงานของ Terrence Malick เป็นหนึ่งในนั้นจากหลากหลายเรื่อง และสุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะต้องย้อนกลับไปยังผลงานแรกๆ อย่าง Badlands

Badlands ถูกสร้างขึ้นในปี 1973 นำแสดงโดย Martin Sheen และ Sissy Spacek ในบทของ Kit และ Holly ถูกนำเสนอในภาพลักษณ์ตามสไตล์วัยรุ่นหัวขบถตามช่วงเวลาในยุคนั้น ที่ถวิลหา อเมริกันดรีม (American Dream), ที่ว่าด้วยคติความเชื่อของคนอเมริกันเกี่ยวกับความสุขและความสําเร็จในชีวิตที่ทุกคนปรารถนา อเมริกันดรีม ปลุกความคิดต่อคนอเมริกันให้เชื่อว่าทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันที่จะมีความสุข ประสบความสําเร็จ หากยึดมั่นในคุณธรรม ทุ่มเทกับหน้าที่ ซื่อสัตย์ต่อครอบครัวและระบบการค้าแบบเสรี ตัวละครของ Holly ถูกออกแบบให้ปรากฏขึ้นในภาพลักษณ์ของคุณหนูผู้บอบบางสะอาดสะอ้าน ส่วน Kit นั้นอัตลักษณ์คือผู้ชายวัยรุ่นหัวก้าวหน้า แบบ James Dean

Kit คือชายหนุ่มอเมริกันทำหน้าที่เก็บขยะ เป็นหนึ่งในอาชีพอันดับต้นๆ ที่ไม่มีใครอยากที่จะทำอาชีพนั้น แล้วบังเอิญไปตกหลุมรัก Holly หญิงสาวที่อายุน้อยกว่าเขา 10 ปี แต่ด้วยความแตกต่างของฐานะ พ่อของ Holly เมื่อรู้ว่าทั้งคู่เริ่มสนใจกันก็เริ่มที่จะกีดกันทั้งสองไม่ให้ได้พบกัน Kit เห็นท่าไม่ดีเลยวางแผนพา Holly หนี เป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น เมื่อ Kit ได้ยิงปืนไปที่พ่อของ Holly จนถึงแก่ความตาย กระสุนครั้งนั้นคือจุดเปลี่ยนชีวิตของทั้งสองคน ในการหลบหนีไปตามชายแดนของสหรัฐฯและสุดท้ายก็ถูกจับกุ่ม ณ สถานที่ที่ชื่อว่า Badlands

Badlands ที่ว่าคืออุทยานแห่งชาติแห่งแรกของโลกและสหรัฐอเมริกาที่ชื่อว่า Badlands National Park, South Dakota ดินแดนรกร้างเวิ้งว้าง และ อีกนัยหนึ่งก็อาจจะหมายถึง บ้านป่าเมืองเถื่อน ไร้อารยธรรม โดยเฉพาะหนุ่มสาวที่ฆาตรกรรมพ่อของตนเองแล้วขับรถหลบหนีการจับกุม

แน่นอนว่าทั้งหมดของเรื่องได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริงของ คดีอาชญากรรมเมื่อปี 1957-1958 ของ Charles Starkweather ชายหนุ่มวัย 18 ปี และแฟนเด็กสาว Caril Ann Fugate อายุ 14 ปี มือปืนอายุน้อยที่ออกปล้นฆ่าก่อเหตุ เป็นฆาตรกรรมต่อเนื่องที่สะเทือนขวัญ[1] โดยเหตุการณ์ของ Charles Starkweather เป็นแรงบันดาลใจให้ถูกหยิบมาสร้างเป็นหนังหลายเรื่อง เท่าที่จำได้ก็

• Kalifornia (1993) ของ Dominic Sena เขียนบทโดย Stephen Levy; Tim Metcalfe
• Natural Born Killers (1994) ของ Oliver Stone (เด่นไม่แพ้กัน)

แต่สำหรับ Badlands นั้น กลับถูกหยิบมุมมอง และ ภาพที่สวยงาม ประหนึ่งความฝันที่แสนสวย ถ่ายทอดออกมาผ่านบท Dialog ที่แน่นสะท้อนนิยามอเมริกันดรีมที่ว่า กับแนวทางการนำเสนอแบบ Road Trip Movie ที่คนดูแล้วอาจจะงงว่า เอ๊ะ! นี่มันเรื่องราวของฆาตรกรหลบหนีนะ ไม่ใช่หนัง หนีพ่อแม่ไปขับรถทัวร์อเมริกา นั่นแหละครับ Terrence Malick ได้จัดให้เราเกิดคำถามนั้นขึ้น และนี่ก็คือภาพยนตร์ลำดับแรกๆ ของเขาที่เล่นพวกเราได้อยู่หมัดกับมุมมอง การนำเสนอ และอารมณ์ ผ่านความสวยงามในช่วงเวลา เริ่มต้น และ สิ้นสุดของสิ่งที่เรียกว่า “ดวงตะวัน”

Terrence Malick เลือกจะนำเสนอชีวิตของ Kit และ Holly ผ่านการเล่าเรื่องที่ไม่ได้ตีแผ่แนวทางอาชญากรรม สะเทือนขวัญ รุนแรงแบบที่ปรากฏในหนังของ Oliver Stone อย่าง Natural Born Killers หรือ การสร้างความไม่น่าไว้วางใจจนรับรุ็ได้ว่าไม่มีคนดีในเรื่องเลยอย่าง Kalifornia ไม่มีการทำ Reflection ใดๆกับการกระทำที่ว่าด้วย บาป-บุญ (ซึ่งตอนจบก็ต้องโดนจับแหละ รับกรรม) แต่เลือกจะไม่พูดถึงสิ่งเหล่านั้น Terrence Malick กลับโฟกัส ห้วงอารมณ์ของความไร้เดียงสา และสัญชาตญาณของทั้งสอง ผ่านการเล่าเรื่องสไตล์ความงามเชิงเพ้อฝัน ผ่านการถ่ายภาพที่สวยงามในชั่วโมงต้องมนต์ (Sunset, Sunrises) ฟุ้งเฟ้อด้วยวาทะคมคาย องค์ประกอบศิลป์ที่เล่นมาครบทฟษฏี เรื่องราวแนวคิดอันสะท้อนมายาคติแห่งอเมริกันดรีม

สำหรับสัญวิทยาที่ปรากฏใน Badlands ที่จับใจความไว้ คือหลังเปลวไฟจุดเปลี่ยนที่ Kit ได้เผาร่างและบ้านของพ่อของ Holly ชีวิตของพวกเขาได้หลุดออกจากกรอบเดิมๆ ที่ถูกตั้งไว้เป็นที่เรียบร้อย และระหว่างการเดินทางนั้น Holly เองเป็นตัวละครที่มีวิวัฏณาการมากขึ้น เธอเป็นตัวละครที่ได้เติบโต และค้นหาตัวตนของตัวเองพบ การเอาตัวรอด การเปลี่ยนแปลงจากหญิงสาวที่ไร้นามในโรงเรียน ให้กลายเป็น “ใครสักคน” ที่เรียกว่า “ตัวเอง” ทั้งที่เธอไม่เคยที่จะทำสิ่งนั้นเลยนั่นคือการลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง แน่นอนว่า ถ้า Kit ไม่ได้ฉีกกรอบชีวิตเดิมๆ ของเธอทิ้ง เธอก็จะไม่มีวันได้ทำอะไรที่เป็นตัวเอง จนสุดท้ายเธอก็มองเห็นแสงสว่าง เช่นกันกับ Kit รอยยิ้มเดียวที่ปรากฏในตอนท้ายคือสิ่งที่เราจะได้เห็นจากเขา คือตอนที่โดนจับกุม อาจจะเป็นเพราะความสบายใจที่ไม่ต้องหลบซ่อนใดๆ จากการกระทำที่พลาดไป หรืออีกนัยคือ วันนี้ก็มีคนได้สนใจในตัวเขา ทั้งที่เมื่อก่อนหน้าไม่เคยมีใครสนใจชายเก็บขยะคนนี้เลย

ในตอนท้ายKit และ Holly ได้พบปลายทางที่อาจจะไม่ได้คล้ายกัน แต่สุดท้ายเส้นทางที่พวกเขาต้องเผชิญก็คือวิถีที่คนอเมริกันชนทั่วปฏิบัติกัน

8/10