Battleship จากเกมกระดาน มาสู่หนังใหญ่
สมัยเด็กๆ เคยมีเกมกระดานพลาสติกให้ผู้เล่นสองฝั่งนั่งเล่นกันวางแผน จำลองว่านี่เป็นเรือรบกำลังประจันหน้ากันอยู่ กลยุทธ์จะยิงลูกปืนใหญ่ให้โดนกองทัพเรือจังๆ ของฝ่ายตรงข้ามนั้นคือความสนุกของเกมกระดานที่ชื่อ Battleship อันที่จริงสมัยเด็กเคยเห็นวัยรุ่นที่ตอนนี้น่าจะแก่แล้ว 2 คนเล่นกันสมัยยังมีห้างโซโก อยู่แถวสยาม ตอนนี้เกมกระดานนี้ได้กลายเป็นภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ของ Universal Pictures ไปแล้ว
เกมกระดานของบริษัทของเล่น Hasbro ได้กลายมาเป็นภาพยนตร์ Action-Scifi ที่โหมเอฟเฟคคอมพิวเตอร์กราฟิก แบบอลังการงานสร้าง ระเบิดระเบ้อ ประหนึ่งภาพยนตร์ของ ฉลอง พักดีวิจิตร พลอตของภาพยนตร์ในเรื่องหลักๆ ของฉากแอ็คชันนั้นผมคิดว่าทาง Universal Pictures คงประสบความสำเร็จในการนำเสนอฉากต่อสู้กันแบบมีชั้นเชิง เท่ ดูมีกึ๋น ฉลาดทีี่จะโหมระเบิด และพังทุกอย่างที่เข้ามาในซีนของตัวภาพยนตร์ ทั้งที่หลักๆ แล้วแค่การยิงโต้ตอบกันนั้นก็ดัดแปลงมาจากเกมกระดานแค่นั้น
ฉากการใช้ระบบ Analog ของคลื่นของวิทยุตีเป็นตารางเหมือนเล่นเกมกระดานซึ่งในภาพยนตร์ได้นำเสนอในฉากการรบตอนช่วงเวลากลางคืนที่ให้อารมณ์เล่นเกมเดินหมากกระดานได้ใจเลย
แต่ว่าจุดอ่อนของตัวภาพยนตร์ก็คงมีหลายจุดเช่นกัน แม้ว่าเอฟเฟคของฉากแอ็คชัน และกราฟิกจะถือว่าดีก็ตาม ในแง่ของสถานการณ์ในการรบกัน ระหว่างเหล่านาวิกโยธิน กับเอเลี่ยนนั้น หน้าหนังนำเสนอให้เหมือนกับว่าเอเลี่ยนได้เข้ามายึดโลกไปแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ มันเป็นแค่ แอเรีย กำบังที่กั้นไว้เพียงอาณาเขตเมืองฮาวายแค่นั้นเอง แต่ก็อาจจะเป็นการกำจัดงบ และลดความไม่สมเหตุสมผล หลายๆ อย่างที่ตัวภาพยนตร์จะต้องเจอนั้นลดลงไป
สำหรับลายน์ของ Story ที่ตัวภาพยนตร์ Battleship นำเสนอเกี่ยวกับตัวละครทั้งหลายแหล่นั้น ก็ยังดูเบาโหวง ตัวเอกของเรื่องอย่าง Alex Hoppers นั้นก็ไม่มีท่าทีว่าตัวเขาเองนั้นผูกพันกับพี่ชายตัวเองมากมายขนาดที่ทำให้ปักใจเชื่อได้ว่าเขา 2 คนนั้นเป็นพี่น้องกัน บทผู้การของ Liam Nilson ก็ดูไม่มีพลังอะไรจะเข้ามาหอบหิ้วให้ภาพยนตร์มีดีกรี เกินไปกว่าภาพยนตร์ Grade A- ที่สมควรลง DVD มากกว่าจะค้างบนจอนานๆ สำหรับบทนายทหารหญิงอย่าง Rex ที่นำแสดงโดย Rihanna นั้นถือว่าไม่มีบทบาทมากนัก แต่ถ้าเป็นบทที่น่าจดจำที่สุดในเรื่องไหม เธอ ทำได้ดีที่สุดมากกว่าตัวละครอื่นๆ และคาดว่าถ้าภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ทะลุเป้า เราอาจจะเห็นเธอในบทบาทนักแสดงในภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ แน่นอน
แต่ถ้าให้สรุป ถึงความคุ้มค่าที่จะไปรับชมในโรงภาพยนตร์ไหม
ผมว่า Battleship ยังพอให้อะไรกลับมา สู่ผู้ชมในโรงภาพยนตร์ ความบันเทิงแบบที่ไม่ต้องซีเรียสอะไรมาก หากว่าตัดส่วนขาดๆ เกินๆ ออกไปแล้วไปเอาความมันส์ ระเบิดถล่มทลายให้กระจายหน้าจอ และความเก๋าที่ ท้ายเรื่อง เหล่านาวิกโยธิน ต้องใช้วิธีจัดการกองทัพเอเลี่ยนกันด้วยกลุ่มทหารพิเศษ ซึ่งเป็นยังไงนั้นอุปไว้ก่อน
ฟันธงความสนุก 8/10 (ถ้าหวังแค่แอ็คชันมันส์ๆ) , 7/10 (ถ้าหวังความเพอเฟ็ค)