DramaLatestNoirSci-Fi

Blade Runner 2049 (2017) วิญญาณแท้จริงในชีวิตแสนปลอม

Blade Runner 2049 เรื่องราว 30 ปีให้หลังของเหตุการณ์ตามล่ากลุ่ม Replicant เจ้าหน้าที่ KD6-3.7 ต้องค้นหาความจริงโดยการตามหา Rick Deckard ที่หายตัวไปว่าด้วยกฏของการเห็นแจ้ง ความเที่ยงแท้จะเกิดได้เมื่อเห็นไตรลักษณ์, ไตรลักษณ์ หรือลักษณะ 3 ประการของสิ่งปรุงแต่งทั้งหลาย (สามัญญลักษณะ) สิ่งใดที่ถูกสร้างหรือปรุงแต่งได้ดำเนินสู่กฎสูงสุดของธรรมชาติจากการกำเนิดขึ้นมาแล้ว สิ่งนั้นจำต้องมีลักษณะ 3 ประการนี้อยู่ด้วยตลอดเวลา ซึ่งได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

การรู้ถึงความไม่เที่ยงแท้ ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงไม่แน่ไม่นอน (อนิจจัง), ลักษณะที่ต้องทนหรือภาวะจำทนที่ต้องเป็น (ทุกขัง), ลักษณะที่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง(อนัตตา) อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือใช้เหตุผลใดมาเปรียบเปรยกับภาพยนตร์ Sci-Fi แบบ Neo Noir สไตล์ Cyber Punk ระดับตำนานอย่าง Blade Runner ที่ก้าวมาถึง 30 ปีให้หลัง

ทุกขัง ลักษณะที่ต้องทนหรือภาวะจำทนที่ต้องเป็น

KD6-3.7 หรือ K (Ryan Gosling) เจ้าหน้าที่พิเศษหน่วย Blade Runner ได้เข้ามาปลดระวาง Replicant รุ่น Nexus 8 ที่หลบหนีมายาวนานจาก Tyrell Group อย่าง Sapper Morton (Dave Bautista) ในฟาห์มเวิ้งว้างไกลปืนเที่ยงจากเหตุการณ์ปลดระวางที่เกิดขึ้น ทำให้ K ได้ข้อมูลบางอย่างที่แสนแปลกประหลาดที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้กับเหล่า Replicant หรือมนุษย์เทียม แน่นอนว่า K เองก็เป็น Replicant เช่นกัน (ตัวหนังจะพยายามบอกเราจากบทสนทนาระหว่าง K และ Morton)

ก่อนจะเข้าส่วนของปริศนาที่ K ต้องปะติดปะต่อ Blade Runner 2049 ส่วนที่น่าสนใจคือส่วนที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง (หรืออาจจะเกี่ยวในช่วงท้าย) คือวิถีชีวิตของ K ถ้าวิเคราะห์ดูดีๆ จะเห็นว่าเหตุการณ์หลัง 30 ปีจากการปลดระวาง Replicant ครั้งก่อนจะทำให้เราเห็นว่า Replicant รุ่นหลังๆ แม้กระทั่ง K คือกลุ่มของ มนุษย์เทียม ที่ถูกตราหน้าว่า ปลอม และพร้อมจะต้องเกิดมาเพื่อรับมือกับสิ่งหนักๆ อย่างการเสี่ยงชีวิต (การต่อสู้ ภาวะอดทนหน้านิ่งของ K ทำให้เห็นว่า Replicant ทนความเจ็บปวดได้ดี และมีหน้าที่เสี่ยงตายแทนมนุษย์จริง) นอกนั้นก็คือหน้าที่บริการชั้นต่ำให้แก่มนุษย์จริง ที่ยกตัวว่าเป็นสิ่งที่สูงกว่า คนละชนชั้น ทั้งที่มนุษย์จริงเองก็ไม่ได้ทำอะไรได้เรื่องได้ราว ได้แต่ใช้ชีวิตไปวันๆ แบบไร้แก่นสาร แต่ก็เหน็บแนมต่อว่าจิกกัด มนุษย์เทียม หรือของปลอมอย่าง K ในที่ทำงานตลอด

สำหรับ K เองก็สะท้อนความเหงาของคนในยุคนี้ได้ดีเหมือนภาพยนตร์เรื่อง Her ที่มี AI Hologram สาวคู่ใจอย่าง Joi (Ana de Armas) สินค้ายอดนิยมหรือ Virtual Girlfriend ที่ขายดีในท้องตลาด แต่หากสังเกตไปเรื่อยๆ ตลอดเรื่องจะเห็นว่า ความสัมพันธ์ของ K และ Joi นั้นลึกซึ้งและดูจริงมากกว่า ความสัมพันธ์ฉาบฉวยของคนบนโลกนี้ในยุคดิจิทัลที่แสนหลอกลวง เช่น K ทำงานเสี่ยงชีวิตเพื่อซื้อประจุเก็บไฟ เพียงเพื่อจะได้มีโอกาสพา Joi เดินทางไปไหนมาไหนด้วยกันได้ เพื่อเป็นการพาเธอไปเปิดหูเปิดตา และ Joi เองก็หาวิธีที่จะช่วยเหลือ K ในทุกโอกาส แม้แต่การกระชับความสัมพันธ์ที่ไม่มีทางเป็นไปได้ของเธอ และเขา หากจะบอกว่า K เป็นเพียงมนุษย์ปลอมที่หลงรัก AI Hologram ที่เป็นของปลอมเหมือนกัน ก็ไม่ต่างอะไรกับ ผีเน่าโลงผุ แต่เอาเข้าจริงหากเห็นสถานการณ์มากมายของ K และ Joi ที่เผชิญด้วยกัน เราจะเห็นความจริงที่แสนจริงอย่างหนึ่ง นั่นคือ ความรัก ที่ทั้งสองมีให้กัน

ประเด็นปริศนาต่อมาคือ คดี ที่ K ได้ดำเนินปลดระวาง Morton แล้วทราบเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้นั่นคือ Replicant อย่าง Rachel ตั้งครรภ์และมีลูกได้ ซ้ำหลักฐานมากมายที่เชื่อมโยงเริ่มเข้ากับความฝันแสนแปลกของ  K ความฝันที่ K ต้องพบกับความทรงจำปลูกถ่ายเป็นภาพฝันที่เขามี (Replicant ทุกตัวจะมีการปลูกถ่ายความฝันปลอมๆ โดย Dr. Ana Stelline (Carla Juri) ทุกคนเป็นเหมือนของขวัญให้กับชีวิตของทาส ที่ Dr. Ana จะให้) ซึ่งความฝันของ K ที่มีมันเชื่อมโยงกับหลักฐานบางอย่างเพราะความฝันของ Replicant อื่นๆ คือความฝันสวยงามแม้ว่าจะไม่จริงแต่ สำหรับ K มันคือฝันร้ายที่สมจริงของการถูกรุมไล่ล่าของวัยรุ่นเพื่อหาของบางสิ่งที่ลักษณะเหมือนม้าที่แกะสลักจากไม้ (เหมือนภาพในความฝันของ Rick ภาคแรก), ความฝันที่สมจริงแม้แต่ Dr. Ana เองต้องหลั่งน้ำตา

อนิจจัง ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงไม่แน่ไม่นอน 

จากหลายๆ อย่างทำให้ K เชื่อว่าตัวเค้าคือมนุษย์จริง เป็นลูกชายของ Rick Deckard (Harrison Ford) ทำให้ K และ Joi ต้องออกตามหาความจริง ซึ่งนั่นก็ทำให้เหล่า Replicant อย่าง Luv (Sylvia Hoeks) นักฆ่าแสนเลือกเย็น ที่ต้องทำภาวรกิจให้กับ Wallace Corp โดย CEO บริษัทออกแบบ Replicant อย่าง Niander Wallace (Jared Leto) ไล่ตามเพื่อจะหาตัว Rick Deckard เช่นกัน

K และ Joi เดินทางไปถึง Las Vegas พบกับ Rick Deckard และถูกโจมตีโดย Luv และทหารรับจ้าง จับตัว Deckard และทำลายวงจรของ Joi ซ้ำร้าย หัวหน้าที่ K เคารพ (มนุษย์จริงคนเดียวที่เข้าใจ K) ก็ถูกสังหารโดย Luv ปล่อยให้ K ถูกทิ้งให้ตายในทะเลทรายเวิ้งว้างอย่างเดียวดาย ก่อนจะมีเหล่าผู้ต่อต้านเข้ามาช่วยเหลือแล้วบอกความจริงแก่ K

ความจริงที่แสนเจ็บปวด นั่นคือ ความฝันที่ถูกปลูกถ่ายจากความทรงจำจริง ซึ่งนั่นคือความจริงที่ K เข้าใจว่าตนกำลังจะเป็นมนุษย์จริงแต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ K เป็นเพียงเครื่องมือที่ Wallace เชื่อมโยงเพื่อจะเข้าถึงตัว Deackard

อนัตตา ลักษณะที่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง บทพิสูจน์ความเป็นมนุษย์

หาก Blade Runner (1982) คือมโนธรรมที่เราใช้ตัดสินความเป็นคนด้วยสิ่งไหน ใน Blade Runner 2049 คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า ความเป็นมนุษย์ไม่ได้เกิดจากการเกิดมาอย่างไร แต่อยู่ที่ว่าเราทำอะไรลงไป เมื่อ K รู้ว่าอนัตตาคืออะไร ความไม่มีอยู่จริงของตัวตนที่เป็นกายเนื้อ จิตวิญญาณที่ถูกต้องต่างหากคือสิ่งที่สะท้อนคุณค่าของความเป็นมนุษย์ K จึงตัดสินใจเข้าไปต่อสู้กับ Luv และช่วยเหลือ Deckard

และพา Deckard ไปพบกับลูกสาวตัวจริงเจ้าของความทรงจำนั้นนั่นคือ Dr. Ana

K นอนกุมบาดแผลสาหัส เหม่อมองหิมะที่ร่วงโรยลงมายังพื้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย และเข้าถึงความหมายของความเป็นมนุษย์ ความหมายของการกระทำที่ยิ่งใหญ่

บทพิสูจน์ของความเป็นมนุษย์ของ K มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว…

คะแนน 7.5/10

Tags

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บัญญพนต์ พูลสวัสดิ์

อาจารย์มหาวิทยาลัยสายไอที แต่ชอบเสพศิลป ชอบดูหนัง เรียกว่าเนิร์ดหนังก็ได้ ชอบ ท่องเที่ยว ชมงานศิลปะ และอ่านหนังสือ เขียน Blog เว็บนี้เขียนมาตั้งแต่อายุ 22 เมื่อก่อนเดินทางบ่อยมากตอนนี้นั่งดูหนังแล้วมารีวิวแบบ critics movie แทน

Related Articles

Back to top button
Close

เราตรวจพบ Adblock บนบราวเซอร์ของคุณ

รายได้หนึ่งของเว็บไซต์คือ โฆษณา ของ Google ยังไงขอความกรุณาผู้อ่านทุกท่าน ปิด AdBlock บนบราวเซอร์ของท่าน เพื่อช่วยเหลือผู้เขียนด้วนะครับ :) ขอบคุณครับ