Carrie (1976) อย่าทำให้ผู้หญิงโกธร

ก่อนที่เราจะได้รับชม Carrie หรือ “สาวสยอง” เวอร์ชันปี 2013 ลองมาดูต้นฉบับที่สร้างจากงานเขียนของ Stephen King เรื่องราวของสาวน้อยที่มีพลังจิตอันน่ากลัว Carrie White รับบทโดย Sissy Spacek เป็นเด็กสาววัยรุ่น ที่ดูผิวเผินทั่วไปที่น่าจะพบเจอหนุ่มๆ มีเพื่อนๆ กลุ่มต่างๆ ในโรงเรียน ปาร์ตี้ เล่นกีฬา ทำกิจกรรมสนุก แต่ตรงกันข้าม Carrie ต้องมีชีวิตที่น่าสงสาร โดดเดี่ยว อยู่กับแม่ของเธอ Margaret White รับบทโดย Piper Laurie เพียง 2 คน ซ้ำร้ายแม่ของเธอนั้นเป็นคนที่คลั่งศาสนาประเภทแบบไม่ลืมหูลืมตา, เหมือนตัวละครในหนังเอเลี่ยนตลกอย่างเรื่อง Paul ที่มีประโยคเด็ดที่คล้ายคลึงกลุ่มสีเสื้อการเมืองในไทย ที่ว่า “ต่อให้เอาเหตุผลไปพูดยังไง เค้าก็ไม่เชื่อเราหรอก” นั่นคือแม่ของ Carrie สภาพใกล้เคียงโรคประสาทของแม่เธอก็สร้างความ เจ็บปวดเล็กๆ ให้เธอมากมายอยู่แล้ว
ชีวิตที่โรงเรียนก็ไม่ต่างกัน เธอไม่ต่างอะไรกับ กลุ่มเด็กขี้แพ้ในสายตาของเพื่อนผู้หญิงสวยๆ ในโรงเรียนอย่าง Chris Hargensen รับบทโดย Nancy Allen ที่สนุกกับการกลั่นแกล้ง Carrie ตลอดเวลา ฉากที่แกล้งหนักสุดคือ เมื่อ Carrie ตกใจที่มีประจำเดือนครั้งแรกเธอโวยวาย แต่เพื่อนๆ กลับหัวเราะเยอะแล้วขว้างผ้าอนามัยใส่เธอ
ซึ่งนั่นคือฉากแรกของการระเบิดพลัง ภายในของตัวเธอออกมา Chris Hargensen และแฟนหนุ่มกุ๊ยรูปหล่อของเธอ Billy Nolan รับบทโดย John Travolta ได้วางแผนตลกๆ แกล้งเธอให้หนักมากขึ้นโดยการจ้าง หนุ่มหน้าตาดีที่เป็นแฟนของคนในกลุ่มอย่าง Tommy Ross รับบทโดย William Katt ให้เข้าไปชวน Carrie เป็นคู่เต้นรำในงาน Prom และทำดีกับเธอต่างๆ นาๆ
ในคืนงาน Prom แม้ว่าแม่ของเธอจะห้ามยังไง เธอก็ไม่ฟัง ซ้ำยังระเบิดพลังให้แม่ของเธอได้รับรู้ แล้วหนีออกไปงาน Prom ขณะที่ Carrie และ Tommy กำลังขึ้นรับตำแหน่ง ราชินีงาน Prom นั่นเอง ทุกคนก็วางแผนเทเลือดหมูสาดใส่เธอจนเปียกโชกไปด้วยเลือด นั่นคือการระเบิดพลังจิตครั้งใหญ่ของ Carrie ชนิดที่ว่าไม่มีใครรอดชีวิตจากงานคืนนั้นได้เลย
ขณะที่เดินกลับบ้าน เธอต้องเผชิญกับแม่ผู้มองเธอว่าเป็นปิศาจ พยายามจะฆ่าเธอ Carrie เลือกจบชีวิตของตน และแม่ตัวเองด้วยการเผาทุกสิ่งให้ไหม้เป็นจุลไปในที่สุด
ภาพยนตร์ในเวอร์ชันนี้ กำกับโดย Brian De Palma โดยในบทประพันธ์ที่นำมาสร้างนั้นคือนิยายที่มีชื่อเรื่องเดียวกับตัวหนัง แม้ว่าจะเป็นเรื่องของผู้หญิง Feminist ยังไง ก็ยังมีกลิ่นอายที่ผู้ชายก็ยังดูได้
รู้หรือไม่ว่า King ได้รับแรงบันดาลใจจาก ภรรยาตัวเอง และ ภรรยาเขานี่แหละที่หยิบนิยายเล่มนี้ที่ King ตีพิมพ์ไม่ได้โยนทิ้งขยะไปแล้วมาปัดฝุ่นและเรียบเรียงใหม่จนกลายเป็นสุดยอดงานเขียนสยองขวัญที่ตีแผ่ความรู้สึกชนิดเข้าใจผู้หญิงได้ดีงานหนึ่งทีเดียว
คะแนน: 7/10
เตรียมพบกับ Carrie เวอร์ชัน 2013 ที่กำลังจะเข้าฉาย แล้วลองมาเปรียบเทียบกันดูหน่อยดีกว่าว่า อะไรจะดีกว่ากันกับความขลังแบบเก่า หรือเอฟเฟ็คกระจายแบบของใหม่
อยากดู แต่ไปกับลูกชาย ตัวเล็กมันไม่ยอมดู เซ็งเลย / Maidev