
นับว่าช่วงเวลาที่ผมอายุ 14 ปีตอนนั้นอยู่มัธยมปีที่ 2 ครอบครัวของผมเป็นข้าราชการที่ต่างจังหวัด ใช้ชีวิตผ่านเหตุการณ์วิกฤติที่เรียกได้ว่าเป็นความล้มเหลวของเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่าง “วิกฤติต้มยำกุ้ง” กับเหตุการณ์ค่าเงินบาทลอยตัวที่รัฐบาลได้ประกาศให้ทุกคนได้ทราบ
แม่ผมได้แต่พูดว่า โชคดีที่เป็นข้าราชการ ไม่โดยไม่ออกไม่ตกงาน เพราะภาพจำในตอนนั้นคือ คนที่รู้จักต้องออกมาขายทรัพย์สินมากมาย บางคนถูก Early Retry อาคารห้างร้าน ที่ก่อสร้างหยุดก่อสร้างปล่อยไว้ จนถึงปัจจุบันในหลายๆ ที่เป็นอนุสรณ์สถานให้หลายคนได้จดจำ สำหรับผมในตอนนั้นแม้จะเด็กอยู่ แต่ก็รับรู้ได้จากความกังวลของครอบครัว และญาติพี่น้องไปจนถึงคนที่เคยรู้จักถึงภาวะที่แสนลำบากในตอนนั้น ชายคนหนึ่งเคยประสบความสำเร็จต้องล้มละลาย ชายคนหนึ่งเอาปืนยิงตัวตายในตลาดหลักทรัพย์ เหตุการณ์ครั้งนั้นคือภาพจำที่แสนเจ็บปวดรวดร้าวของทุกคนที่ผ่านมา
ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ ลี ชาตะเมธีกุล ได้มองเห็นภาพสะท้อนที่เรียกได้ว่า New Normal ในยุคนั้นกับประเทศไทยจึงได้ถ่ายทำเรื่องราวของประเทศไทยและทุกชีวิตที่อยู่ในช่วงเวลานั้นผ่าน Concrete Clouds หรือ ภวังค์รัก โดยใช้ตัวละคร 4 ตัวในการดำเนินเรื่องให้เห็นความยากลำบากของชีวิตในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจนั้น ผ่าน มัด (อนันดา เอเวอริงแฮม) หนุ่มนักเรียนนอกที่ต้องกลับมาทำธุระที่บ้านเกิดอย่างประเทศไทย เพราะได้ข่าวการฆ่าตัวตายของผู้เป็นพ่อ และต้องกลับมาดูแลช่วยเหลือน้องชายที่กำลังอยู่ในวัยรุ่นหัวเลี้ยวหัวต่ออย่าง นิค (ประวิทย์ ฮันแสตน ยิ้มวงสมเกียรติ) ซ้ำยังต้องกระชับความสัมพันธ์พี่น้องที่ห่างกัน และอีกสองชีวิตคือ ปู้เป้ (อภิญญา สกุลเจริญสุข) สาวข้างห้องเจนโลกที่นิคหลงรักแบบวัยรุ่น กับ ทราย (เจนสุดา ปานโต) อดีตนางแบบนักแสดงที่ผันตัวมาเป็นนักการตลาด และเป็นคนรักเก่าของมัด
โดยความแปลกของการดำเนินเรื่องหลักคือ การสอดแทรกมิวสิควีดีโอ ทั้ง Original, ฟุตเทจภาพจริงยุคนั้น และการเล่นใหม่โดยคล้อยตามสไตล์วัฒนธรรมป๊อปให้คนดูเข้าใจบริบท และรสิยมในยุคนั้นก่อนสร้างความอินให้กับคนที่อาจจะเกิดไม่ทัน หรือเด็กยุคใหม่ที่ไม่น่าจะเข้าใจว่าช่วงเวลานั้นบ้านเมืองวัฒนธรรมเป็นยังไง ซึ่งอาจจะดูแปลกในครั้งแรกหรือซีนแรก แต่พอช่วงหลังก็พอจะสื่ออารมณ์ให้กับทุกสิ่งได้ง่าย ซ้ำหลายๆฉากหรือเพลงบอกถึงภาวะบางอย่างของตัวละครทั้ง 4 ได้ดี โดยเฉพาะ นิค และ ทราย ที่เหมือนภาพฝันที่สวยงามที่สร้างขึ้นมาบดบังความจริงอันเจ็บปวดในโลกของความเป็นจริง
โดยสิ่งที่สะท้อนวิกฤติต้มยำกุ้งหรือภาวะการล่มสลายของเศรษฐกิจไทยในยุคนั้นในภวังค์รัก คือสิ่งที่เรียกว่า “ความสัมพันธ์”
นิค และปู้เป้ คือความสัมพันธ์แบบเด็ก บทสนทนา ความคาดหวัง ความเรียลคือสิ่งที่บอกถึง Coming of Age ที่ตัวละครต้องเจอ บางอย่างก็รับได้ บางอย่างที่แบกรับไม่ได้ก็ต้องอาศัยผู้ใหญ่ช่วยเหลืออย่างเหตุการณ์ที่นิคขอให้มัดกลับมาประเทศไทย ปูเป้คือหญิงสาววัยรุ่นที่ต้องอาศัยอยู่บนโลกของความเป็นจริงเธอต้องจำใจทำงานที่บาร์เหมือนพี่สาวที่เลี้ยงเธอแบบทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ดูแลแต่ก็สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ตรงข้ามกับนิคที่แทบจะไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตนเอง ณ ตอนนี้,
ภาพฝันความรักใสๆ ของนิคกับปูเป้ คือสิ่งสะท้อนของวัยรุ่นในยุคนั้นที่พยายามหลบหลีกหนีจากความเป็นจริง การเติมพลังแก่จิตใจของตน แต่สุดท้ายความสัมพันธ์ของนิคและปูเป้ต้องมีวันยุติเมื่อปู้เป้เห็นว่า นิค จะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศแน่นอน เธอจึงตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ของเธอและนิคลงแม้ว่ามันจะดูเจ็บปวด
มัดและทราย คือความสัมพันธ์ที่คล้ายกันข้างต้นแต่อยู่ในมุมมองที่โตแบบผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย มัด ได้กลับมารำลึกถึงรักแรกของเขา ที่ห่างหายไปยาวนาน จึงเดินทางไปหา ทราย และทุกสิ่งก็เหมือนจะเป็นการกลับมาสู่ความรักครั้งเก่า หวนคืนกับอดีตที่แสนหวาน แต่สุดท้ายทุกสิ่งก็ต้องหยุดชะงักไปต่อไม่ได้ถูกปล่อยลอยล่องเบาหวิวไปตามอากาศ ตามแต่มันควรจะเป็นเหมือนค่าเงินที่ลอยตัวในยุคนั้น เพราะสุดท้ายอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ซ้ำสะเทือนใจและหาจุดลงตัวที่ดีให้กับความสัมพันธ์ของทั้งคู่เมื่อทรายบอกความจริงกับมัดได้อย่างตรงไปตรงมา ให้ออกจากภวังค์และกลับสู่ความเป็นจริง
Concrete Clouds หรือ ภวังค์รัก นำเสนอภาพที่สวยงาม โลเคชันของประเทศไทยในยุคนั้น การแต่งกาย ดนตรี วัฒนธรรม ให้แก่ทุกคนที่หวนหาอดีตและยังสร้างการตระหนักรู้ถึงวิกฤติที่ร้ายแรงทางเศรษฐกิจและกลิ่นอายของความเจ็บปวด เศร้า เหงา ของคนยุคนั้น ที่ไร้ซึ่งปลายทาง ไม่สามารถมองไปอนาคตได้แต่มองแค่ปัจจุบันว่าชีวืตจะรอดไปได้แต่ละวันยังไง ได้แต่การสร้างภาพฝันที่สวยงามผ่านอดีต ผ่านความทรงจำให้กับตัวเองทั้งที่รู้ว่า เมื่อไรที่เราหยุดฝันกลางวันก็ต้องกลับมาต่อสู้กับความเป็นจริงอีกครั้ง
บทของทราย ถือว่าเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก สะท้อนสังคมในบางเรื่องได้ดีทีเดียว ซ้ำในตอนท้ายที่เธอพูดกับมัดคือสิ่งที่มันจริงและสามารถดึงทุกคนออกจากฝัน และภวังค์ได้อย่างทันที
ตัวละครที่เหงา เคว้งคว้าง ล่องลอยที่ปรากฏในภาพยนตร์ทุกตัว คือภาพสะท้อนให้เรานึกย้อนไปปี 2540 (1997) ได้อย่างชัดเจนทีเดียว
คะแนน 8:10 ค่อนข้างชอบแบบ ชอบมากๆทีเดียว