ถือว่าเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ Premier ผ่าน Netflix แล้วไม่ได้ดูทันที แต่ไหนๆ อยู่บ้านกันก็ดีกว่าไม่มีอะไรทำก็เลยเปิด Extraction ขึ้นมาดูแล้วก็พบว่า นี่เป็นหนังที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้กับ คนระห่ำภารกิจเดือด
ตามที่บอกว่า หนัง Premier หรือ Original By Netflix ถ้าชอบก็คงจะเป็น Spectral ที่ถือว่าทุนโอเคการสร้างดี ถ้าเฉยๆก็คงจะเป็น Bright 2017 คืนเดือด ล่าคฑากายสิทธิ์ แอ็คชันแบบชนแหลกแบบ 6 Underground ของ Michael Bay ผมยังรู้สึกว่ามันยาวไป แอ็คชันระเบิดแหลกเหมือนกันนะแต่อืด ยืดอยู่นั่น ก็เลยไม่ได้คาดหวังกับ Extraction แต่พอดูแล้ว คือ หนังมันเป็นแอ็คชันที่อยู่บน มาตรฐานความบันเทิง และ คงความเป็น Netflix แต่มันเล่าแบบกระชับลงมาหน่อย แล้วไปใส่สิ่งดึงดูดความสนใจของเราเพิ่มคือ Long Take คิวบู๊ที่ดูโหด โอเวอร์ และ ความเท่ในการต่อสู้ ก็เลยทำให้เราลืมเรื่องที่ควรจะหงุดหงิดไปแล้วหันไปเอาใจช่วยตัวเอกทำภารกิจแทน
ส่งที่ชอบอีกแบบ และอธิบายได้ตรงเลยคือ ชื่อเรื่องของมัน Extraction แปลตามตัวก็คือ การสกัด ซึ่งเจ้าคำว่า การสกัดนี่ ถ้าลงลึกไปอีกมันคือกระบวนการ การนำ
Tyler Rake (Chris Hemsworth) ทหารรับจ้างกับฝันร้ายในอดีต ต้องมารับภารกิจสุดหินจาก Nik Khan (Golshifteh Farahani)ในการเข้าไปชิงตัวลูกชายของผู้มีอิทธิพลในแวดวงอาชญากรรมของอินเดีย Ovi Mahajan (Rudhraksh Jaiswal)โดยเป้าหมายการชิงตัวของเขาถูกลักพาตัวไปโดยผู้มีอิทธิพลในแวดวงอาชญากรรมของบังกลาเทศ ภารกิจก็คงจะเห็นเดินเข้าไปจ่ายตลาด แล้วกลับบ้านก็คงไม่ใช่ ไหนจะแก๊งค์ค้ายา แก๊งค์เด็กแว๊นซ์จากสลัม ทั้งกองทัพทหารคอร์รัปชันของบังกลาเทศ ซ้ำภารกิจยังโดนหักหลังจากฝ่ายอินเดียเข้าไปอีกเมื่อฝั่งอินเดียก็มีผู้ติดตามคนสนิทฝีมือทหารชั้นเลิศเข้ามาแทรกแซงภารกิจอย่าง Saju (Randeep Hooda)
ตัวละครของ Tyler ถือว่าคงเส้นคงวา มีโม้บ้าง อะไรบ้าง แค่นับถือฉาก Long Take และเหนื่อยแทนตลอดเส้นเลือดที่ต้องพาเป้าหมาย ใครที่ชอบแอ็กชันเน้นๆ ความรุนแรงแบบจัด ๆ คิวบู๊โม้แต่สนุก ก็ตอนนี้แหละหลัง 20 นาทีไปคุยไม่ได้หยุดแน่นอน จะมีก็ดราม่าปูเรื่องราวปมชีวิตของ Tyler และ Ovi เข้าไป
สปอยล์
แกนกลางของหนังจะบอกว่า เห็นใจตัวละครกลุ่มนึงนะคือ Ovi และ แก๊งค์สลัม ที่กลายเป็นว่าสังคมบีบให้พวกเขาเอาตัวรอดจนผ้าขาวบริสุทธิ์ก็ไม่มีอีกละ มีแต่ปิศาจตัวเล็กๆ ที่รอวันเติบโต
ส่วนที่อ่อนของหนักคืออารมณ์เกี่ยวกับ Character Development คือตัว Tyler เองมีความรู้สึกสำนึกผิดจากเหตุการณ์ของลูกที่เสียชีวิต ก็เลยพลิกภารกิจช่วยเหลือ Ovi จากตอนแรกที่มองแค่เป็นพัสดุ กลายเป็นไม่ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตยังไงก็ต้องพาเด็กคงนี้รอดไปให้ได้
- บางฉากถ่ายทำที่ไทยนะเหมือนบังกลาเทศเลย
- ใครชอบแอ็คชันจ๋า ตลอดเรื่องแนะนำ
- หนังค่อยข้างไว แต่มีสะดุดบ้างช่วงนึงกลางๆ เรื่อง กับเหตุการณ์ที่ไม่จำเป็น
- ฉากเบลอก่อนจบเรื่องที่สระว่ายน้ำ สรุปเป็น Tyler ไหมอันนี้คนสร้างไม่ได้บอกให้เราไปคิดเองครับ
- ใน IMDB บอกว่า Joe Russo (based on the graphic novel “Ciudad”, from a story by), Joe Russo (script) มาจากการ์ตูน “Ciudad” มาเขียนบทใหม่
คะแนนสำหรับผม 6.8/10
รับชมได้แล้วที่ Netflix: https://www.netflix.com/th-en/title/80230399
