
Love in a Puff ภาพยนตร์รอมคอมจากฮ่องกง เรื่องราวของความรัก หนุ่มนักโฆษณา กับสาวร้านเสริมสวยที่มาพบรัก ณ โซนสูบบุหรี่
ในขณะที่ภาพของการสูบบุหรี่ในภาพยนตร์นั้นถูกกองเซ็นเซอร์ไล่เบลอกันอย่างจริงจัง แต่ Love in a Puff กลับเลือกที่จะเล่นประเด็นของการสูบบุหรี่ประมาณว่า “สูบบุหรี่กันเถอะพี่น้อง” แบบหนังเรื่อง Thank You for Smoking (2005) ของ Jason Reitman ทำให้ Love in a Puff ได้เรท R ไปโดยปริยาย โดยปราศจากภาพโป๊ เปลือย หรือ ฉากโหดใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งใจสะท้อนสังคม หรือ กวนตีน ของผู้กำกับ Pang Ho-cheung หรือจะไม่ตั้งใจก็เป็นได้
ยังไงก็ตาม Love in a Puff กลับมีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจและเรียลสุดๆ ในเรื่องของความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่องในรูปแบบ รอมคอม สุดน่ารัก ที่กลายเป็นว่าดูแล้วก็เข้าขั้นชอบมากอีกเรื่อง
สูบบุหรี่กันดีกว่า
Love in a Puff ว่าด้วยเรื่องของกฏหมายห้ามสูบบุหรี่ในอาคารของฮ่องกง ทำให้หลากหลายอาชีพที่อยู่ในเมืองแออัดต้องวิ่งหาโซนสูบบหรี่ตามร่มเงาของมุมตึกย่านธุรกิจ Jimmy (Shawn Yue) หนุ่มนักโฆษณาจากเอเจนซีแห่งหนึ่งได้พบกับ สาวใหญ่ Cherie (Miriam Yeung) สาวร้านเสริมสวยเข้าโดยบังเอิญ การผูกมิตรของเพื่อนสูบบุหรี่ก็ได้ก่อตัวเป็นความเห็นอกเห็นใจกัน นอกเหนือจากตัวละคร 2 ตัวนี้แล้วยังมีแง่มุม และวิถีชีวิตของอีกหลายตัวละคร หลากหลายอาชีพในฮ่องกง ในระดับชั้นกรรมชีพขึ้นถึงแค่ระดับปถุชนมนุษย์เงินเดือนที่หาเช้ากินค่ำไม่ใช่ไฮโซแต่อย่างใด ตั้งแต่ พนักงานร้านอาหาร ยันเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาแลกเปลี่ยนมุมมองกันในโซนสูบบุหรี่แห่งนี้อีกด้วย
ประเด็นรอมคอมคือจังหวะทีเล่นทีจริงระหว่าง หนุ่ม มาดกวนกับ สาวแสบตัวแม่ที่แก่กว่า ที่เล่นมุขแบบ “เผื่อฟลุค” กันไปมาที่ดูเรียลดี คือถ้ามาฉายในยุคนี้ การแลกข้อความทางโทรศัพท์ อาจจะเป็นขอ Line ขอ Facebook คุยกันไปมาดีๆ นี่แหละ จนกระทั่งเมื่อ สาวเจ้าดันมีปัญหากับแฟน (ก็เพราะคุยกับตัวเอกนี่แหละ) ก็เลยเลิกลากันไป พอเลิกกับแฟน ก็เลยมาเป็นการปรับทุกข์ แล้วก็รุกพระเอกตอนทำใจได้ ทีนี้ Jimmy พระเอกของเรื่องก็สับสนสิครับ (เป็นเราเราดูเอง เจอเองก็สับสนแบบพระเอกนั่นแหละ)
ความชอบคือ สภาวะของความเป็นจริง เนื่องจากสภาวะของ Love in a Puff นั้นคือกิจวัตรของกลุ่มคนที่สูบบุหรี่ (อันที่จริง คือคนทำงานทั่วไปในชีวิตที่เราเจอทุกวันที่มี สังคมเพื่อนสูบบุหรี่ต่างออฟฟิศ) มาแลกเปลี่ยนมุมมอง มันคือเหตุการณ์ปกติ เพียงแค่ Love in a Puff หยิบคนกลุ่มนี้มาเล่าได้อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งก็จะทำให้หลายๆ คนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ และมักมีคำถามว่า “พี่ไปสูบที่ไหน” “ทำไมลงไปสูบบุหรี่ถึงนานจัง” ก็เพราะเค้าลงไปคุยกับเพื่อนสูบบุหรี่ของเค้านั่นเองไงครับ (ดีลธุรกิจ บางทีได้มาจากการสูบบุหรี่นี่แหละ)
คนที่รับฟัง
เรื่องของความรักแม้ว่าจะเป็นรอมคอมธรรมดาๆ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วมันก็บอกได้ถึงความสัมพันธ์ของคนที่บางครั้งเราต้องการคนที่ รับฟัง และให้คำแนะนำ แก่เรา เหมือนที่ Jimmy เป็น ไม่เกี่ยวกับวัย อายุ หรือสถานะ ไม่เกี่ยวกับบุหรี่เลยแม้แต่น้อย ถ้าหากว่าเราฉลาดตีความ มันคือความเข้าอกเข้าใจ และรับฟังกันระหว่าง Jimmy และ Cherie แค่นั้นเองจริงๆ ที่ปรากฏใน Love in a Puff เพียงแค่ความรักที่เกิดขึ้นระหว่าง 2 ตัวละครนี้จะเป็นไงต่อคงต้องต่อประเด็นเอา
สิ่งที่ชอบอีกอย่างของ Love in a Puff คือสัญลักษณ์ของตัวละครที่สื่อให้เราเห็นผ่านภาพครับ การต่อบุหรี่ ที่คล้ายภาพของการจูบกัน เป็นต้น
Love in a Puff บอกเราว่า บุหรี่กับความรักเหมือนกันอย่างหนึ่ง มันสั้น เหมือนมวนบุหรี่ที่เราสูบมันจะหมดตอนไหนก็ได้ เปรียบกับความสัมพันธ์ของ Jimmy และ Cherie ที่เป็นปลายเปิดในเรื่องความต่าง และระยะเวลาที่ทั้งคู่ตัดสินใจกัน ความรัก มันมีความเสี่ยงเหมือนโรคมะเร็งที่อาจจะเกิดจากบุหรี่ หรือ ปัจจัยอื่นๆ แต่อย่าลืมว่า นิโคติน สารในบุหรี่ทำให้เราผ่อนคลายและมีความสบายใจแก่ผู้สูบ – ความรักก็เช่นกัน
คะแนน 8/10