ComedyLatestRomance

Mannequin (1987) เทวดาทำหล่น ความจริง กับ สิ่งที่เราต้องการ

Mannequin (1987) เทวดาทำหล่นภาพยนตร์แนวรอมคอมที่น่ารัก ที่จะพาเราไปพบชายหนุ่มใสซื่อ กับ สาวงามที่อยู่ในร่างหุ่นโชว์เสื้อผ้า

ทุกคนล้วนมีความฝัน มีจินตนาการมากมายที่เราอยากจะเป็น อยากจะคิด จินตนาการที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เรียกว่าเป็นศิลปินนั้น การออกแบบสร้างสรรค์อะไรสักอย่างขึ้นมาให้เป็นที่น่าจดจำ เป็นสุดยอดของความรู้สึกที่หาสิ่งใดมาเปรียบเทียบไม่ได้ งานศิลปะหลายๆ ชิ้นที่ศิลปินรังสรรค์ขึ้นจากความทุ่มเท่หากเป็นงานออกแบบที่อยู่ในแบบรูปธรรมที่จับต้องได้ มันคือความสุขประเภทหนึ่ง

งานออกแบบที่ออกมาเป็นรูปธรรมจากความตั้งใจของศิลปินมันสะท้อนถึงสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า “สิ่งที่เราต้องการ” ออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด เปรียบดังการออกจากจุดที่เป็นอยู่ มีความสุขไปกับมัน (Distach) ออกจากโลกของความเป็นจริง ที่แม้แต่อภัยปรัชญายังกล่าวไว้ว่า “ความจริงที่แสนเจ็บปวด” งานออกแบบจึงเป็นเหมือนทางออกรูปแบบหนึ่งที่ศิลปินต้องใช้เป็นเครื่องมือในการหลบหนีความจริงอันเจ็บปวดนั่นเอง

Mannequin หรือหุ่นโชว์เสื้อผ้านั้น เป็นเหมือนคำสาปให้กับ Ema ‘Emmy’ Hesire (Kim Cattrall) สาวงามที่เกิดในยุคก่อนคริสตกาล เธอขอพรให้เทวดา นำพาให้เธอรอดจากการถูกจับแต่งงานกับพ่อค้าอียิปต์ โดยทั้งชีวิตเธอต้องการเพียงแค่การพบรักแท้ และชายในฝันที่เข้ามาดูแลเธอได้ และแล้วพรของเทวดาก็กลายเป็นความจริง พรวิเศษนำพาเธอเดินทางข้ามเวลามาแสนไกล ภายใต้รูปร่างของหุ่นโชว์เสื้อหาในห้างสรรพสินค้าที่กำลังจะปิดกิจการ และเธอจะมีโอกาสที่คืนร่างกลับมามีชีวิตได้ก็ต่อเมื่อเธอได้พบผู้ชายที่มีรักแท้ให้เธอเท่านั้น แล้วใครมันจะมาหลงรักหุ่นโชว์เสื้อผ้ากันล่ะ?

หนุ่มน้อยผู้มีความฝันอยากเป็นนักดนตรีอาชีพ ที่ต้องสูญเสียความเป็นตัวตนในฟิลาเดลเฟีย Jonathan Switcher (Andrew McCarthy) เป็นชายผู้ซึ่งเปลี่ยนงานบ่อยไม่เคยทำอาชีพไหนสำเร็จและอยู่ได้ยาว ตั้งแต่ นักตกแต่งบอลลูน, นักจัดสวน และ พนักงานพิซซ่า ซ้ำร้ายเขายังโดนแฟนสาวบอกเลิกอีกต่างหาก ในทุกวัน Jonathan เฝ้าแต่บ่นกับตัวเองว่าโลกแห่งความจริง มันช่างน่าผิดหวัง เพราะงานที่เขากำลังทำอยู่คือนักดีไซน์ Display และหุ่นโชว์เสื้อผ้าที่กำลังทำท่าจะดี กลับจะต้องปิดกิจการ และเขากำลังจะตกงานอีกแล้ว

ในคืนหนึ่ง Jonathan ได้ออกแบบ Mannequin หุ่นโชว์เสื้อผ้าที่เขาเรียกว่า “หุ่นแสนสวย” ขึ้นมาใบหน้าคล้ายคลึงกับ Emmy งานออกแบบที่เขาออกแบบเค้าใส่ความทะนุถนอม เอาใจใส่ และดูแล แม่หุ่นแสนสวน ตัวนี้ประหนึ่งผลงานชิ้นสำคัญ ประหนึ่งคนรักในอ้อมกอดของเขา ทำให้ Emmy ที่อยู่ในอาถรรพ์คำสาปหลงรักในความ อ่อนโยน และจิตใจดีงามบริสุทธิ์ของเขาเข้าเต็มเปา

มนต์สะกดส่วนหนึ่งจากความรักของ Jonathan ที่มีต่อหุ่นแสนสวย ทำให้ Emmy จะกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ในช่วงกลางคืนในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ซึ่งนั่นเองเป็นที่มาของความรักที่แสนแปลกแหวกแนว และอุปสรรค์เล็กน้อยที่มาเต็มให้กับ ภาพยนตร์ Mannequin เรื่องนี้ได้อย่างสมบูรณ์

Mannequin เป็นตัวอย่างที่บอกว่าความจริง ความฝัน นั้นมันต่างกันมาก แม้ภาพยนตร์จะบอกถึงเรื่องราวเพ้อเจ้อที่รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก แต่เอาเข้าใจพอเราได้รับชมเราก็จะลืมเหตุผลที่เราตั้งขึ้นไว้ออกไป แล้วอยู่กับมุขตลก และความน่ารักของพระเอกนางเอกได้อย่าง 100% เพราะอย่างที่บอกว่า เราทุกคนล้วนเป็น Jonathan โลกแห่งความจริง มันช่างน่าผิดหวัง ดังนั้นสิ่งเดียวที่จะเยียวยาในช่วงเวลาที่แสนเหนื่อยล้าเจ็บปวด ก็อาจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า “สิ่งที่เราต้องการ” จินตนาการที่แสนบันเทิง

เพราะบางครั้งเรื่องโม้เหล่านี้ก็ช่วยบรรเทาจิตใจเราให้กลับมามีพลังได้อย่างดีเยี่ยมทีเดียว

7.5/10 คะแนน

OST รางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมตอนนั้น ต้องยกให้เป็นเพลง Nothing’s Gonna Stop Us Now ของ Starship (Jefferson Starship) ที่ทำไลน์ดนตรีให้เราดื่มด่ำกับยุค 80s’ ได้อย่างลงตัว และเป็นเพลงที่อยู่ใน List ของผมตลอดเวลามากกว่า 7 ปีแล้วที่ได้ฟังมัน ลองฟังดูกันครับ:

Nothing’s Gonna Stop Us Now

Tags

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บัญญพนต์ พูลสวัสดิ์

อาจารย์มหาวิทยาลัยสายไอที แต่ชอบเสพศิลป ชอบดูหนัง เรียกว่าเนิร์ดหนังก็ได้ ชอบ ท่องเที่ยว ชมงานศิลปะ และอ่านหนังสือ เขียน Blog เว็บนี้เขียนมาตั้งแต่อายุ 22 เมื่อก่อนเดินทางบ่อยมากตอนนี้นั่งดูหนังแล้วมารีวิวแบบ critics movie แทน

Related Articles

Back to top button
Close

เราตรวจพบ Adblock บนบราวเซอร์ของคุณ

รายได้หนึ่งของเว็บไซต์คือ โฆษณา ของ Google ยังไงขอความกรุณาผู้อ่านทุกท่าน ปิด AdBlock บนบราวเซอร์ของท่าน เพื่อช่วยเหลือผู้เขียนด้วนะครับ :) ขอบคุณครับ