จะว่าไปช่วงหลังนอกจากภาพยนตร์ที่ไปดูที่โรงภาพยนตร์ที่นับจำนวนครั้งได้ก็จะเหลือแค่หนังในบ้านอย่าง DVD, Bluray และนั่งรอซีรีย์ผ่านเคเบิล TV พอติดลมก็อยากจะดูต่อ หนัง HD ผ่านเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางที่ขอแนะนำครับ ก็ตั้งแต่เป็นพ่อคนนี่การดูหนังอยู่บ้านหลังจากลูกนอนคือการพักผ่อนแต่จะเปิดเสียงดังๆ ลูกก็ต้องตื่นเมียก็ด่าเอาได้ ดังนั้นช่องทางที่สะดวกที่สุดคือเปิดดูผ่าน เว็บไซต์แบบ On-Demand Video แล้วใส่หูฟังผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ตก็ได้ หากลองค้นหาบน Google ดูก็จะพบเว็บไซต์หนัง HD มากมายให้เราได้ดู แต่…เดี๋ยวก่อน…!
อย่างว่าครับ ผมมีอาชีพเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ถ้าจะบอกว่าให้ดูหนังละเมิดมันก็ดูได้แหละแต่จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกศิษย์ได้ยังไง? บางทีความบันเทิงมันต้องมีการลงทุนบ้างครับ จ่ายเล็กจ่ายน้อยบ้างเพื่อความถูกต้อง อย่าคิดแต่ว่าของทุกอย่างบนอินเทอร์เน็ตมันฟรี เพราะหนัง หรือภาพยนตร์แต่ละเรื่องมันก็มีต้นทุนทั้งนั้น ผู้นำเข้าหรือผู้ถือลิขสิทธิ์เค้าก็ลงทุนเอามาฉายให้ ประกอบกับบริการดูหนังแบบ HD ออนไลน์นี่ก็มีหลากหลายบริการที่ราคาก็ไม่แพงให้เราได้เลือกหามาดูกัน ผมเลยได้ลองคัดบริการที่น่าสนใจมาเปรียบเทียบให้ดู ไว้เป็นช่องทางตัดสินใจครับ
ส่วนค่าบริการนั้นก็เท่าๆ กันหมดฮะ รายเดือนไม่เกิน 200 บาท (ซื้อ Sticker Line ยังเยอะกว่านี้อีก แหม…)
บริการ On-Demand Video ที่ผมจะนำเสนอในตอนนี้จะเน้นไปที่ ซีรีย์ เป็นหลักก่อนแล้วกันครับ และที่สำคัญถูกลิขสิทธิ์ด้วย ซึ่งก็ได้แก่ PrimeTime, Doonee, HOOQ และ iflix ครับ เกณฑ์ที่ใช้วิเคราะห์และรวมรวมมาให้นั้นเน้นไปที่ การดูผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือ เว็บไซต์เป็นหลักก่อนนะครับ เพราะผมยังคงอยู่ใน Generation Y ซึ่งยังต้องการดูหนังผ่านหน้าจอใหญ่ๆ นั่งเอนหลังสบายๆ มาก กว่าจะไปนั่งส่องจากมือถือ หรือ สมาร์ทโฟนแบบ Generation Z (อายุ 19-25 ปี) ที่เค้าเกิดมากับสมาร์ทโฟน และชินตากับอะไรเล็กๆ
การเข้าใช้งานเว็บ UI & UX บนเว็บไซต์ การออกแบบและการจัดวางหน้าเว็บไซต์ ครั้งแรกที่จะลองใช้งานดูผ่านเว็บไซต์ในแต่ละบริการ โดยส่วนตัวของผมนะครับ
DOONEE- บริการ On-Demand ตัวหนึ่งที่น่าสนใจครับแม้ว่าภาพยนตร์แทบจะไม่ปรากฏให้เห็นเลย เน้นหลักไปที่ซีรีย์ ซึ่งก็อาจจะไม่ใหม่เท่าแต่ก็มีหลายเรื่องที่ได้รับความนิยมแล้วยังไม่ได้ดู และตั้งใจจะดูปรากฏอยู่มากมาย ประกอบการระบบการรับชมฟรี บางเรื่อง และที่โดนใจที่สุดมี 2 ส่วนครับ
อนึ่งคือผมเป็นคนที่ชอบรีวิวหนัง ภาพยนตร์ ซีรีย์ อยู่แล้วมาเจอระบบการรีวิวของบริการนี้ครับ เค้าเขียนออกมาเป็นแบบ Scoop วิเคราะห์ และบอกเหตุผลที่ควรจะต้องดูเป็น เนื้อหาให้อ่าน ประหนึ่งรีวิวก่อนดู (คล้ายๆ รีวิวหลังดูแบบเว็บไซต์ของผมเว็บนี้เลย) สำหรับซีรีย์ที่กำลังจะรับชมคือ Californication (18+), Primeval สัตว์ประหลาดหลุดมิติ และที่ชอบคือ CSI แบบทุกซีซันที่ฉากทั้ง NY, Miami, Las Vegas โผล่มาให้ดู (แม่ผมชอบมาก) ซีรีย์เหล่านี้ที่เคยดูค้างไว้นานมาแล้ว บน PrimeTime, HOOQ, iflix ไม่มีให้ดูแต่ที่ DOONEE มีให้ดูครับ
เรื่องที่สองที่ชอบคือการจ่ายเงินครับ มีรูปแบบการตัดเงินแบบ IVR ให้ส่ง SMS ไป verified ซึ่งเมื่อก่อนเคยสมัครแบบนี้กับเว็บ On-Demand TV ดูตัวหนึ่งชอบมาคือ ยินดีจ่ายแบบไม่เหมา ไม่สนคำว่าคุ่ม สนคำว่าสะดวกที่สุดไม่ตัดบัตรเครดิต ก็ขอแบบ ตัดค่าโทรศัพท์ไปเลย ไม่อยากเดินออกไปโอนเงิน หรือทำอะไรมากมายหลายสิ่งที่เคาท์เตอร์
โดยรวมของ DOONEE
โดยรวมแล้วสำหรับสาวกที่ชอบดูซีรีย์เก่าบ้างใหม่บ้าง แล้วไม่มีเวลาออกไปนอกบ้าน มีซีรีย์ที่ต้องการจะดูแล้วต้องอาศัยข้อมูลมานั่งอ่านก่อน อาจจะชอบ DOONEE ครับ เพราะถือว่าเป็นเว็บที่ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการอ่านรีวิวก่อนรับชมจะได้ไม่เสียเวลา อีกทั้งมีระบบสำหรับขาจรขี้เกียจออกจากบ้าน หรือตัดบัตรเครดิตบางเวลาแบบผมในระบบ IVR ตัดค่า SMS ไปเลย ดังนั้นสายแข็งซีรีย์อาจจะชอบเว็บไซต์ DOONEE ที่ต้องการดูซีรีย์ยาวๆ จ่ายแค่ช่วงของซีซันก็น่าจะชอบใจบริการของส่วนนี้ครับ ถ้าได้ซีรีย์ของฝั่ง HBO มาแล้วจ่ายเงินได้แบบนี้นะรักตายเลย
PrimeTime – อันที่จริงเห็นโบรชัวร์ครั้งแรกและบริการรายปี? ใช่ครับรายปีที่ร้าน iStudio ก็เลยหยิบมาลองสมัครดูไปแล้ว รายการก็ซีรีย์คล้ายๆ ของ iFlix แต่ไม่มี MR. ROBOT แต่ก็ยังมีซีรีย์ Constantine (ที่ไม่สร้างต่อแล้ว) ซึ่ง HOOQ ไม่มี, iflix ไม่มี ซีรีย์นี้ผมอยากจะเก็บไว้ดูเพราะยังดูไม่จบปรากฏให้เห็นเป็นจุดเด่นก็มาปรากฏเจอที่ Primetime ส่วนบริการที่ใช้คือรายปีปัจจุบันจ่ายน้อยลงแล้ว มีจุดเด่นอีกตัวคือระบบเช่าหนังครับ
โดยรวมของ PrimeTime
จะว่าไป PrimeTime เป็นบริการตัวแรกๆ ที่นำเสนอบริการรูปแบบ On-Demand Video เลยครับทำให้โอกาสในการทำการตลาดจึงมีปรากฏมากกว่าหลายๆ ค่ายอีกทั้งระบบเช่าหนังนั้นก็มีให้ลองใช้งานอยู่เจ้าเดียวแต่ถ้ามีปัญหาแบบผมคือเช่าแล้วไม่เคยได้ดูสักทีก็เล่นเอาไม่คุ้มเหมือนกันครับ 21 วันแล้วลืมดูนี่ประจำ ดังนั้นแพ็คเก็ตนี้คนไม่มีวินัยในการดูหนังแบบผมก็ไม่คุ้มแล้วล่ะ ส่วนค่าบริการก็ดูจะแพงที่สุดครับ แต่ก็จะมีถูกลงถ้าไปพ่วงกับแพ็คเก็ตหนึ่งของ Dtac และน่าสนใจอีกตัวคือ Line Pay
ระบบในการรีวิวนั้นเป็นการให้ดาว ที่ไม่ได้สอดคล้องกับระบบของ IMDB เลยครับ น่าจะมาจากคนดูที่เราก็ไม่รู้ว่าใครให้คะแนนกัน การตัดสินใจจะเลือกดูภาพยนตร์หรือซีรีย์อะไรๆ ก็คงจะต้องเสี่ยงดวงจากเรื่องย่อเหมือนปกหลัง DVD หรือ Bluray อยู่ดีครับ
HOOQ – นั้นเนื่องจากระบบไปพ่วงกับ AIS Fiber หรือ บริการของ AIS เสียส่วนใหญ่ แล้วเบอร์โทรศัพท์หลักของผมเป็นเครือข่ายอื่น สิ่งที่เกิดขึ้นคือผมต้องไปหา Sim ที่เป็นของ AIS มาเป็น Sim ในการ Activate บัญชีของผมครับ เพราะว่า เมื่อผมกรอกเบอร์โทรศัพท์ของผมที่ไม่ใช่ของ AIS ลงไปแล้วมันจบที่ รับ OTP แล้วไม่สามารถไปต่อได้ใน Step ที่ 3 ครับทำให้อารมณ์เสียเอาได้
ทั้งๆที่ซีรีย์ที่ผมอยากจะดูก็มีอยู่คือ Ash vs Evil Dead ที่ทาง HOOQ เอาขึ้นโปรโมตให้สาวกหนังคัลท์ยุคนั้นได้รับรู้ก่อน แต่ก็ต้องมาแป๊กของ Flow ของระบบที่ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับเครือข่ายหรือเปล่า? ซึ่งตรงนี้ผมก็ให้คำตอบไม่ได้แต่ถ้าใช้ Sim ของ AIS แล้วใช้เปิดบัญชีดูผ่าน แท็บเล็ตก็ถือว่าโอเคครับ แค่ต้องเสียเวลาเปิดเบอร์ใหม่เล็กน้อยเท่านั้นเอง ส่วนซีรีย์นั้นเป็นซีรีย์เก่าๆ มีใหม่ปนบ้าง และก็ไม่ค่อยถูกโฉลกผมเสียเท่าไรคือ หน้า All TV ของเค้ามีซีรีย์ไทยที่ผมไม่ใช่แฟนคลับครับ ดังนั้นบริการของ HOOQ ถ้าเป็นหนังอาจจะ 4-5 ดาว และถ้าซีรีย์ก็ 3 ดาวเท่านั้น
โดยรวมของ HOOQ
ถ้าตัดเรื่องของเครือข่ายออกไป จริงก็มีภาพยนตร์ และซีรีย์ที่น่าสนใจรวบรวมไว้เยอะพอตัว ติดแค่ส่วนของ Rating ก็เป็นปะเภทของ Rating จากผู้ชมทั่วไปไม่มีการรีวิวอะไรให้เราอ่านเพื่อตัดสินใจนอกจากเรื่องย่อ ส่วนสิ่งที่ยังไม่ค่อยชอบใจคือ ซับไทย หลายๆ เรื่องไม่มีทั้งที่มีหนังที่อยากดูอยู่เช่น Lock stock and two smoking barrels เป็นต้น
เพิ่มเติม
นอกเหนือจากบริการที่ว่ามาทั้งหมดนั้นก็น่าจะเป็นบริการอีกตัวคือ iflix ที่อาจจะต้องงมหา subtitle ที่แทบจะไม่มีเลย
iflix – แบ่งหมวดหมูหลัก คือภาพยนตร์ ซีรีย์ และ รายการของเด็ก อีกทั้งสามารถกรองหมวดหมู่ได้จากประเภทของภาพยนตร์ หรือซีรีย์ประเภทที่เหมือนหรือใกล้เคียงกัน แต่อย่างที่บอกไม่มีซับไทยเลย
รายการเช่นซีรีย์ หรือ ภาพยนตร์ที่อยากจะลองเลือกรับชมนั้นต้องอาศัยบุญกรรมเล็กน้อย เพราะระบบรีวิวไม่มี อีกทั้ง Rating ก็ดูจะไม่บอกอะไรมาก ระบบการดึง Relate Movies ก็ดูจะงงๆ เล็กน้อย ไม่รู้ว่าระบบมายังไงอ่ะนะ สำหรับผมการอ่านรีวิวเชียร์ก่อนมีอิทธิพลกับผมพอดู (ก็เขียนเว็บรีวิวหนังนี่เนอะ)
สรุป
บริการของ On-Demand Video ก็สามารถตอบโจทย์ให้คุณได้เลือกใช้รับชมกันได้อย่างเต็มที่ครับ เพียงแค่อาจจะต้องออกแบบการจ่ายเงินให้ดี เพราะบางบริการมีบางเรื่อง บางบริการก็ไม่มี ดังนั้นอยู่ที่ว่าเราอยากดูซีรีย์เรื่องไหนก็ให้ตรวจสอบรายชื่อก่อน แล้วค่อยเลือกสมัครใช้บริการนั้นครับ ส่วนการสมัครก็ถ้าเน้นเหมาจ่ายดูเยอะๆ ก็ไปที่ บัตรเครดิต แพงสุดก็ PrimeTime นอกนั้นก็ลองลงมา ส่วนคนที่ต้องการจ่ายน้อยควบคุมเงินได้ก็ไปที่ DOONEE ได้เลยครับผ่าน IVR หรือเล่น Promotion
