
ในยุคที่ภาพยนตร์เริ่มได้รับความนิยมที่เรียกว่าหนังเงียบ Silent Film หรือก่อนทศวรรษ 1900 ภาพยนตร์หลอนประสาทจำพวก Creepy Film ได้ถูกสร้างขึ้นมาหลากหลายเรื่อง
อาจจะบอกว่านี่เป็นบทความรอยต่อ 2 ปีหลังของเรื่อง เปิดกรุตำนานภาพยนตร์สยองขวัญในยุคหนังเงียบ Silent Film ย้อนหลังกลับไปที่ยุคของ ผู้คนและอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในช่วงก่อนทศวรรษปี 1900 – 1990 ในยุคนั้นต้องอาศัยสุนทรียศิลป์ขนาดไหนการรับชมภาพยนตร์ในสมัยนั้นที่ล้วนเป็น “Silent Film” หรือ “หนังเงียบ” อย่างที่กล่าวแต่ใครจะรู้ว่า มีภาพยนตร์นอกกระแสที่ถูกสร้างแบบ Creepy น่าขนลุก และสวนกระแสผู้ชมกลุ่มหลัก (Mainstream Audiences) เรามาดูกันดีกว่า
ชุดภาพยนตร์แรกผมขอนึกถึง ผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีนามว่า Segundo Víctor Aurelio Chomón y Ruiz หรือ Segundo de Chomón เป็นผู้กำกับภาพยนตร์สเปนและฝรั่งเศสผู้บุกเบิกการถ่ายทำภาพยนตร์และบทภาพยนตร์ เขาผลิตภาพยนตร์สั้นจำนวนมากในฝรั่งเศสขณะที่ทำงานให้กับ Pathé Frères และเป็นคู่แข่งกับ Georges Méliès (พ่อมดวงการมายา A Trip to the Moon (1902) ภาพยนตร์ Sci-Fi เรื่องแรกของโลก) จุดเด่นคืออุบายหลอกสายตาคนดูจากมุมกล้อง ที่เหมือนการสร้างภาพลวงตาในเรื่องของระยะ (ตามเทคนิคในยุคนั้น)
ถ้าภาพยนตร์ของ Segundo de Chomón ก็คงต้องยกให้ A Funny Shave หรือชื่อในภาษาสเปนคือ
Segundo de Chomón: Ah! La Barbe! (1905)
การโกนหนวดหฤหรรษ์ เมื่อ ชายคนหนึ่งพยายามที่จะโกนหนวด แต่แล้วเขาก็ได้พบกับใบหน้าที่แปลกประหลาดปรากฏขึ้นในกระจกเงาของเขา
ฟิมล์ภาพยนตร์นี้ครูการแสดงในคอร์สสอนการแสดง Characters’ actions ซึ่งบทของเนื้อเรื่องอาจจะไม่มีอะไร แต่พอไปค้นหาข้อมูลใน Google เราจะพบว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้หลอนประสาทคนดูค่อนข้างมากทีเดียว
Segundo de Chomón – Métamorphoses (1912)
นักเล่นแร่แปรธาตุ เรื่องราวว่าด้วย นักมายากลหญิงนำเสนอการเปลี่ยนแปลง แบบเล่นแร่แปรธาตุเปลี่ยนรูป ที่น่าประทับใจหลายประการ เทคนิคนี้เริ่มผนวกเข้ากับการสร้างภาพเคลื่อนไหวแบบสต็อปโมชั่นยุคแรกๆ ในช่วงครึ่งแรกของหนังเรื่องนี้เป็นการใช้เทคนิคสต็อปโมชั่นย้อนกลับ ทำได้น่าเหลือเชื่อถ้าคิดว่านี่คือภาพยนตร์ 112 ปีมาแล้ว
ในช่วงครึ่งหลังภาพยนตร์เน้นไปที่การออกแบบฉากที่ซับซ้อน หลอกระยะลูกตาคนดู ผ่านเทคนิคการการตัดต่อและการหายตัวไปของนักแสดง ฉากครึ่งหลังเหมือนภาพนิยายเลยล่ะ
แถมอีกเรื่องซึ่งผมว่า Creepy ดีนะคือเรื่อง
The Frog หรือ La Grenouille (1908)
ภาพยนตร์ยุคเงียบยุคแรก ๆ ที่รู้จักกันในนาม “La Grenouille” ในฝรั่งเศสเปิดตัวในปี 1908 เรื่องราวกบกับผู้หญิงที่ตกลงเป็นมิตรกันแล้วเริ่มเดินทางออกไปผจญภัยภายนอก ระหว่างพลาดเขาพลัดหลงกับเธอไปโดยไม่ตั้งใจและเริ่มเดินทางด้วยตัวเอง พบชายชราบ้าคลั่ง และในที่สุดกบพบผู้หญิงที่พลัดหลง
แต่เธอเปลี่ยนไปที่ได้รับการปฏิบัติเหมือนราชินี เขาพยายามที่จะเข้าใกล้เพื่อนหญิงคนเดิม แต่เธอถูกเพื่อนรายล้อมไปด้วยคนมากหน้าหลายตาที่เขาไม่เคยพบมาก่อนดังนั้นเขาจึงออกไป ในตอนท้ายเธอเลิกใช้ชีวิตแบบนั้น และเลือกกับมาหาเพื่อนกบของเธอ นับภาพยนตร์ที่ค่อนข้างแปลกตาในการเล่นเทคนิคในยุคนั้น
ทีนี้มาดูผลงานอีกเรื่องดีกว่า ผลงานของ Abel Gance และนำแสดงโดย Max Linder นับว่าเป็นภาพยนตร์สยองขวัญคอมเมดี้ที่มาก่อนจะมีคำนี้อีก และพลอตแบบ Twist สุดๆกับภาพยนตร์เรื่อง
Au Secours! (1924) – ชื่อภาษาอังกฤษ Help!
เป็นหนังตลกสยองขวัญเงียบปี ค.ศ. 1924 กำกับโดย Abel Gance และนำแสดงโดย Max Linder ชื่อภาษาฝรั่งเศสแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “Help!” ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่รู้จักกันในนามบ้านผีสิงที่ชายคนหนึ่งต้องอยู่ในบ้านหลังนั้นให้ครบเวลา เหมือนล่าท้าผี
เคานต์ Maulette ได้ท้ายทายแขก และสมาชิกในคลับส่วนตัว ว่าถ้าใครใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในปราสาทผีสิงที่เฮี้ยนมากๆ เขาจะให้รางวัล ชายหนุ่มที่เพิ่งแต่งงานใหม่ชื่อว่า Max จึงเลือกที่จะเดิมพันโดยการเผชิญกับความท้าทายเงินรางวัลพันฟรังก์ Max จำต้องอยู่ในปราสาทผีสิง ตั้งแต่ 23.00 น. จนถึงเที่ยงคืนเพื่อที่จะชนะการเดิมพัน
เคานต์ Maulette ได้ให้เงื่อนไขแก่ Max ว่าหากต้องการขอความช่วยเหลือให้สั่นระฆังซึ่งนั่นจะมีคนไปช่วยทันที แต่ Max จะต้องเสียเงินเดิมพัน
หลังจากที่ Max ต้องอยู่ภายปราสาทเขาก็ได้ถูกจู่โจมโดยเหตุการณ์ประหลาดเหนือธรรมชาติ ตั้งแต่ มีหุ่นอัศวินเข้ามาเอาชีวิตเขา โครงกระดูกที่ปรากฎอย่างน่าขนลุก สัตว์ป่าเดินไปตามทางเดิน และวิญญาณเร่ร่อนบินโฉบไปมา สยองน่าดูเลแหละ และขณะดูก็สนุกดีเหมือนกัน
ในที่สุดขณะที่ Max กำลังจะชนะการพนันโทรศัพท์ดังขึ้น เมื่อมีคนขู่จะเข้าไปทำร้ายภรรยาของเขา เขาเหลือไม่กี่นาทีก่อนเที่ยงคืน และเพื่อป้องกันตัวภรรยาของเขา เขาเลือกที่จะสั่นกระดิ่งหรือไม่…. (จบแบบ หักมุมมาก)
THE DANCING PIG (1907)
ผมเข้าใจว่าความภาคภูมิใจเป็นสิ่งที่อยากจะแสดงออกให้ทุกคนได้เห็นสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างสรรค์แต่ The Dancing Pig หมูที่เต้นระบำนี้
ช่วงท้ายคือการโชว์ว่าชุดทำอะไรได้บ้างมันไม่ได้ทำให้ภาพยนตร์นี้สมบูรณ์แต่กลับทำให้มันน่าขนลุกมากกว่าเดิมสุดๆ
ก็กลายเป็นว่าน่าขนลุกไปโดยปริยายจริงๆ
ทั้งหมดนี้ก็น่าจะเป็น บันทึก เบาๆ ที่รวบรวมไอเดียแสนบรรเจิดในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในช่วงก่อนทศวรรษปี 1900 – 1990 ในยุคนั้นต้องอาศัยสุนทรียศิลป์ขนาดไหนการรับชมภาพยนตร์ในสมัยนั้นที่ล้วนเป็น “Silent Film” หรือ “หนังเงียบ” ที่ถูกสร้างแบบ Creepy น่าขนลุก และสวนกระแสผู้ชมกลุ่มหลัก (Mainstream Audiences) นั่นเองครับ