
มันเป็นเรื่องยากถึงมากที่สุดที่จะเข้าใจความหมายของสิ่งที่ Stanley Kubrick แทรกไว้ในภาพยนตร์ของเขาเช่นกันอย่าง Clockwork Orange ที่ตีแผ่ “เสรีภาพ” ของมนุษย์ภาพยนตร์ Clockwork Orange ปูทางในบรรยากาศของประเทศอังกฤษ โดยเป็นเหตุการณ์ที่สมมติขึ้นว่าเป็น โลกในอนาคตข้างหน้าของเรา ผ่านมุมมองในยุคนั้น โดยมีตัวละครที่เป็นศูนย์กลางของเรื่องคือ Alex นำแสดงโดย Malcolm McDowell นักเลงที่ใช้ชีวิตไร้แก่นสารไปวันๆ กับลูกน้องในกลุ่ม ผ่านการปูเหตุการณ์ของการกลั่นแกล้งคนทั่วไปด้วยวิธีต่างๆ นาๆ ให้คนอื่นเดือนร้อน ตั้งแต่ ปล้น ทำร้ายร่างกาย และอีกหลากหลายวิธีการ ผ่านการดำเนินเรื่องที่แทบจะไม่เป็นสาระสำคัญอะไรเลย
แน่นอนว่า นัยหลักๆ ที่ Stanley Kubrick จะนำเสนอนั้น ผมใช้เวลามากกว่า 3 สัปดาห์ในการรับชม และตีความ (อันที่จริงเคยดูแล้วสมัยมัธยม แต่ไม่เข้าใจสิ่งที่จะสื่อ) แม้กระทั่งตอนนี้หากให้วิเคราะห์จริงๆ ผมก็ไม่กล้าการันตีความ การตีความในเนื้อหาที่จะนำเสนอของ Clockwork Orange ในแบบของผมนั้นจะถูกไปซะหมด
ประเด็นที่ Stanley Kubrick จะนำเสนอนั้น อาจจะหมายถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของมนุษย์หลังจากได้กระทำการใดๆ ลงไป แน่นอนว่าในตัวอย่างที่ปรากฏของ Alex นั้นคือความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่แทบจะต่ำกว่าศูนย์ในสิ่งที่เขาได้ทำลงไป อย่างตัวอย่างที่เห็นชัดคือการทำร้ายร่างกายหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ในบ้านหลังหนึ่ง ที่นอกจากจะพาลูกสมุนลงแขกข่มขืนผู้หญิงแล้วก็ยังเล่นเอาฝ่ายชายปางตายอีกต่างหาก
ถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่พูดไปนั้นมีผลต่อ Alex ไหม สิ่งที่ภาพยนตร์นำเสนอคือ ไม่เลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังทำให้ Alex รู้สึกมีความสุข ประหนึ่งสำเร็จความใคร่ด้วยซ้ำไป
จนกระทั่ง Alex ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจปกครอง แทนที่โทษที่ได้รับคือการจำคุกธรรมดา ตรงกันข้าม ทางการต้องบำบัดจิตของ Alex ในแง่ของความรุนแรง สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจาก Alex ถูกบำบัดแล้วปล่อยตัวออกมา เขาก็ได้กลายเป็นคนธรรมดา โดยฝังรากฐานสภาพจิตให้กลายเป็นคนที่รังเกียจ และทรมานทุกครั้งที่เห็น หรือคิดถึงภาพของการก่ออาชญากรรม
ผลข้างเคียงของการเปลี่ยนแปลงคือ Alex มีสภาพไม่ต่างอะไรกับศพ หรือหุ่นยนต์ที่ไขลาน – เปรียบเปรยถึงการสูญเสียความเป็นมนุษย์ไป แน่นอนว่าตัวภาพยนตร์นั้นนำเสนอในแง่ของจิตวิทยา และศึกษาจิตใต้สำนึกของคนผ่าน Alex ขั้นตอนการรักษาสภาพจิต แม้ว่าจะยุติเรื่องความรุนแรง ที่มาของปัญกาอาชญกรรมได้ แต่ข้อเสียก็คือคนที่ถูกบำบัดจากการสะกดจิตก็เหมือนหุ่นยนต์ที่ปราศจาก หัวใจ และเลือดเนื้อ จะบอกเป็นนัยๆ ว่าคนไข้จิตเพศบางรายหากรักษาด้วยยาเป็นประจำ ก็อาจจะลดอาการคลุ้มคลั่งได้ แต่ผลข้างเคียงก็คือสมองถูกกดและทำลาย
จนกระทั่งในบทสรุปตอนท้าย เมื่อเหตุการณ์บางอย่างบีบคั้นกับ Alex อย่างหนัก Alex ก็เปรียบเสมือน มนุษย์ทั่วไปที่เลือกจะใช้สิทธิในการลงมือกระทำบางสิ่ง แบบเต็มรูปแบบอีกครั้ง พร้อมความชั่วร้ายที่ปรากฏออกมาเต็มรูปแบบ
ยังไงก็ตาม ผมอาจจะหาข้อสรุปจากภาพยนตร์ของ Stanley Kubrick แบบ 100% ก็คงไม่ได้แน่นอน คำถามปลายเปิดมากมายปรากฏขึ้นหลังภาพยนตร์จบลง คน อย่างเราๆ มีสิทธิที่เลือกจะทำอะไรก็ได้จริงหรือ แม้ว่ามันจะเป็นการทำเรื่องที่ดี หรือเรื่องเลวร้าย และถ้าเราไปกำหนดสิทธิ กดขี่สิทธิเหล่านั้น เป็นไปได้ว่าสุดท้าย คน คนนั้นอาจจะระเบิดบางอย่างออกมาแบบไม่คาดคิดก็ว่าได้
คะแนน 8/10