
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย Sukhothai, World Heritage เสน่ห์เมืองประวัติศาสตร์มรดกโลก ที่คนส่วนใหญ่เชื่อกันว่าเป็นอาณาจักรแห่งแรกของไทย
ข้อมูลบันทึกการเดินทางช่วงลงไปพัฒนาแอปพลิเคชัน AR Smart Heritage ของกรมศิลปากร
จังหวัดสุโขทัยนับว่าเป็นแหล่งมรดกทางศิลปวัฒนธรรมที่นักท่องเที่ยวต่างรู้จักกันดี จนกระทั่งในปี พ.ศ.2534 ได้รับการยกย่องให้ สุโขทัยเป็นมรดกโลก ภายใต้ชื่ออุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ร่วมกับอุทยานอีกแห่งนั่นคือ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยและ เมืองบริวารคืออุทยานประวัติศาสตร์กําแพงเพชร ด้วยความรุ่งเรืองด้านศิลปวัฒนธรรม สุโขทัยมีความน่าสนใจในประเด็นต่าง ๆ มากมายทั้งเรื่อง ความเป็นอยู่ ศิลปวัฒนธรรม สังคมชนชาติ สถาปัตยกรรม งานศิลปต่างๆ โดยความงดงามของเมืองมรดกโลกสุโขทัยเราสามารถเลือกเดินทางเพื่อท่องเที่ยวรับชมความงามได้แบบวันเดียว (One Day Trip) หรือหลายวันได้อย่างครบถ้วนได้แล้วแต่เราจะวางแผน
หลักศิลาจารึกที่ ๑ ได้บันทึกไว้ว่า “เมื่อชั่วพ่อขุนรามค้าแหง เมืองสุโขทัยนี้ดี ในน้ำมีปลาในนามีข้าว เจ้าเมืองบ่เอาจกอบใน ไพร่ลู่ทาง เพื่อจูงวัวไปค้าขี่ม้าไปขาย ใครจักใคร่ค้าช้างค้าใครจักใคร่ค้า ม้าค้า ใครจักใคร่ค้า เงินค้าทองค้า ไพร่ฟ้าหน้าใส”
ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจากเมืองมรดกโลกสุโขทัยสู่เมืองบริวาร
เมืองบริวารที่ว่านั้นก็จะประกอบไปด้วย เมืองศรีสัชนาลัย, กำแพงเพชร และ พิษณุโลก เพราะนอกจากเมืองมรดกโลกสุโขทัยที่นับว่าเป็นเมืองหลักในการเดินทางแล้ว เมืองบริวารโดยรอบอย่าง 3 เมืองที่ว่านั้นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเมืองที่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมอย่างเมืองกําแพงเพชร หรือศรีสัชนาลัย เมืองที่ขึ้นชื่อด้วยศิลปวัฒนธรรมหลากยุคอย่าง พิษณุโลกเองก็มีความงดงามน่าสนใจไม่แพ้กัน
สุโขทัยเป็นดินแดนที่เคยเป็นรัฐโบราณที่สําคัญแห่งหนึ่งในอดีต ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ํายม เป็นชุมชนโบราณตั้งแต่ยุคเหล็กช่วงปลายของยุค ในพุทธศตวรรษที่ 18 สุโขทัยมีฐานะสถานีการค้าของละโว้ที่นับว่าเป็นรัฐรูปแบบหนึ่งในขณะนั้น จนกระทั่งพ่อขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมือง ได้ร่วมกันกระทําการยึดอํานาจจากชนชาติขอมสบาดโขลญลําพง ทำการสถาปนาเอกราช จนสุโขทัยได้กลายเป็นรัฐอิสระในครานั้น
ราวปี 1800 สุโขทัยมีพัฒนาการและรุ่งเรืองถึงขีดสุดในสมัยของพ่อขุนรามคําแหงมหาราช ทั้งความรุ่งเรื่องทางด้านศิลปะ การค้า และศาสนา จนกระทั่งเกิดความตกต่ำในช่วงหลังของยุครุ่งเรื่อง ประสบปัญหาทั้งจากภายนอกและภายใน เมื่องอาณาจักรอยุธยามีความรุ่งเรืองมากกว่า จนกระทั่งภายหลังสุโขทันถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยาในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
ในปี พ.ศ.2534 สุโขทัยได้รับการประกาศ ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในชื่อ อุทยานประวัติศําสตร์สุโขทัย ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์ ศรีสัชนาลัยและอุทยานประวัติศาสตร์กําแพงเพชร อันเป็นกลุ่มสถานที่มรดกโลก ที่สามารถแสดงให้เห็นถึงร่องรอยอารยธรรมโบราณอันเป็นเสน่ห์ทรงคุณค่า และงดงามของอดีต มรดกจากอาณาจักรสุโขทัยที่ครั้งหนึ่งเลยยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย
สถานที่น่าสนใจ เที่ยวได้ในหนึ่งวัน
วัดพระพายหลวง : ชมปรางค์สามองค์ ก่อด้วยศิลาแลงและฉาบด้วยปูนปั้น รูปแบบ ศิลปะแบบบายน (พ.ศ.1720-1780) ศิลปะแบบนี้มีลักษณะที่พิเศษ ได้แก่ มีภาพจำหลักที่ส่วนมากจะเป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ ภาพของชีวิตทั่วๆไป ภาพตำนานหลากหลายของเทพเจ้า และสัตว์ในตำนาน
วัดศรีชุม : เป็นจุดที่เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้มา แปลว่ามาไม่ถึงสุโขทัย เราสามารถชมความงดงามและยิ่งใหญ่ของพระปูนปั้นปางมารวิชัย “พระอจนะ” สักการะพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ซึ่งมีเรื่องราวเล่าขาน กันมาว่าเป็น “พระพูดได้”
วัดสะพานหิน และวัดเขาพระบาทน้อย : สักกําระพระอัฏฐารศ พระพุทธรูปปางประทานอภัย ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถชมทัศนียภาพได้โดยรอบ เชื่อมไปยังวัดเขาพระบาทน้อย กับซากฐานเจดีย์ขนาดมโหฬารที่นึกภาพไม่ออกว่าหากยังมีอยู่จะยิ่งใหญ่ขนาดไหน ในช่วงเดือน ตุลาคมจะมีประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ ที่พระสงฆ์จะทำพิธี และเดินจากเขาที่วัดสะพานหินลงมาตักบาตร เป็นภาพที่หายากเพราะ 1 ปีมีครั้งเดียว
เขื่อนดินสรีดภงค์ : อ่างเก็บน้ําขนาดใหญ่ ต้นทางของระบบชลประทานที่ไหลมาหล่อเลี้ยงเมือง โบราณสุโขทัย
วัดมหาธาตุ : ชมพระเจดีย์มหาธาตุทรงพุ่ม ข้าวบิณฑ์ (ทรงดอกบัวตูม) ศิลปะแบบ สุโขทัยแท้ ใจกลางอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มาไม่ได้เข้าไปชมแปลว่ามาไม่ถึงที่นี่
วัดศรีสวาย : วัดที่จำลอง เขาพระสุเมรุ กับสถาปัตยกรรมเก่าเเก่และงดงาม ของพระปรางค์สามยอดศิลปกรรม ที่สร้างขึ้นด้วยช่างชาวขอม เทวสถานโบราณสำหรับพิธีกรรมก่อนเปลี่ยนเป็นวัดในยุคการเปลี่ยนผ่านเริ่มนับถือพระพุทธศาสนา
สถานที่ทางประวัติศาสตร์อื่นๆ ก็ยังมีความน่าสนใจหากมีเวลา วัดช้างล้อม วัดตระพังเงิน วัดตระพังทองหลาง เพราะเวลา 1 วันหากไม่เสียเวลามากไป สามารถใช้เส้นทางจักรยาน เดินทางไปมาได้สบายๆ ไว้ทริปต่อไปจะพาไปศึกษาเส้นทางของสุโขทัยกับเมืองบริวารอีกแห่งนั่นคือ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย พบกัน…