
ขอยกนิ้วให้เลย The Conjuring ในแง่ความโดดเด่นในบทภาพยนตร์ ถือว่าเป็นหนังผีที่สร้างบรรยากาศขนลุกน่ากลัว โดยไม่พึ่งมุขหนังผีเดิมๆแน่นอนว่าต้องยกนิ้วให้กับ ผู้กำกับ James Wan เจ้าของผลงาน Saw, Dead Silence และ Insedius (นี่ก็ชอบมากไว้จะมารีวิวทีหลัง) ทั้ง 2 ภาค ที่ทำการบ้าน เก็บรายละเอียด และปราณีตในแง่ของบรรยากาศในหนัง ตัวบท และ ข้อมูล ไม่แปลกที่สุดท้าย James Wan ได้กลายเป็นผู้กำกับหนังสยองขวัญแนวหน้าได้อย่างสบาย
สำหรับ The Conjuring นั้นอยู่ใน ขนบหนังผีสไตล์การหลอกสอนสิงสู่ และออกมาไล่ผีอย่าง หนังดังในอดีตเช่น The Exorcist และ The Rite เป็นกันที่เน้นเรื่องของความเชื่อด้านผีสางของตะวันตก และตรีเอกานุภาพ (พระบิดา พระบุตร พระจิต)ในการต่อสู่ระหว่างสิ่งชั่วร้ายโสมม กับความดีงาม พร้อมกับนำบรรยากาศขนลุกเยือกเย็นมาร่วมประกอบการดำเนินเรื่องไปพร้อมๆ กับชะตากรรมของตัวละครที่ถูกสิงสู่ ที่หนังแนวนี้มักจะพ่ายแพ้คนดู ในแง่ของความเร้าใจ หายใจไม่ทั่วท้อง หนังสยองขวัญแบบ ผีบ้าระห่ำ ออกมาสิง มาเชือด แหวะ สยอง โผล่มาตึงๆ ให้สะดุ้งแล้วก็ลืมมันไป ตรงกันข้าม The Conjuring เลือกที่จะเล่าเรื่องตามสไตล์แบบดั้งเดิม ผีปรากฏน้อยลง เน้นบรรยากาศมากขึ้น อ้างอิงข้อมูลมาหน่อย ใช้สถานการณ์ที่คับขันออกมาไม่ต้องบ่อย ไม่ต้องกดดันตัวละคร เล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมา ดูๆ ไปแล้วก็ออกจะธรรมดา แต่กลับกลายเป็นว่า ความหลอนเบาๆ นี่แหละที่ทำให้เกิดอาการอึ้ง และยกนิ้วให้กับหนังเรื่องนี้ในการถ่ายทอดออกมาให้เราได้รับรู้ไปตามตัวละครทุกตัวได้อย่างเต็มใจ
อาจจะเป็นเพราะ เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นสร้างมาจากเรื่องจริง
และ อาจจะบอกได้ตรงๆ เลยว่า The Conjuring นั้น สามารถเป็น แบบเรียนชั้นหนึ่ง เกรด A สำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบตัวเอง ในการเริ่มต้นดูหนังผี หรือหนังสยองขวัญก็ว่าได้
เรื่องราวของ The Conjuring เริ่มต้นผิดแผลกจากหนังผีเรื่องอื่นๆ ที่มักจะเป็นการี่ตัวละครคือครอบครัวแสนสุข เผชิญหน้ากับบ้านผีสิง โดนแกล้ง โดนหลอกหลอน และต้องเอาตัวรอดกันเอง ซึ่งอาจจะมีคนมาช่วยในภายหลัง อาจจะเป็นหมอผี หรือนักบวช ไม่ก็ตำรวจที่เก่งๆ
แต่ The Conjuring นั้นเลือกที่จะเอาตัวละครที่สร้างมาจาก ตัวตนจริงๆ ของ สามีภรรยานักล่าผี อย่าง Ed และ Lorraine Warren รับบทโดย Patrick Wilson และ Vera Farmiga ฝั่งสามีเป็นนักเทวะวิทยา ด้านปิศาจ ส่วนภรรยาเป็นคนที่มีญานทิพย์ติดต่อวิญญาณได้ ปรากฏตัวมาไล่ผีตุ๊กตา Annabelle ตั้งแต่เริ่มเรื่อง พร้อมบรรยายความสามารถของทั้งคู่ชัดเจนเลยว่า นี่แหละนักล่าผีตัวจริง
เรื่องราวเล่าควบคู่ขนานกับ ครอบครัว พ่อแม่ และลูกสาว 5 คน ครอบครัว Perron รับบทโดย Ron Livingston และ Lili Taylor ที่ย้ายเข้ามาบ้านใหม่แล้ว ลูกสาวบังเอิญไปเปิดห้องใต้ดินที่มีของเก่ามากมาย พร้อมทั้งเปิดทางให้วิญญาณร้ายปรากฏตัวออกมาหลอกหลอน หลายคืน
จนกระทั่ง คนเป็นแม่ มาพบกับ 2 สามีภรรยานักล่าผีเข้า เรื่องราวเลยเข้าปรากฏการณ์ “ล่า ท้า ผี” แบบนอนสต๊อบ พร้อมเทคนิคที่แสนละเอียด จนเรารู้สึกถึงความเอาใจใส่ในหนังของคนทำ
เทคนิคการถ่ายภาพวิญญาณ ที่ใช้กันจริงๆ ในยุค 60-70 ถูกหยิบมาใช้ในเรื่องนี้ เหมือนหนังเรื่อง Awakening (2011) แสดงโดย Rebecca Hall กับการใช้ไฟแบล็คไลท์ไล่ตามล่องรอย และรายละเอียดของการไล่ผี ที่ไม่ใช่ว่าจะเรียกคนมาไล่ตอนไหนก็ได้ เพราะจริงๆ ต้องมีการเก็บหลักฐาน มากมายหลายแบบไปยื่นสำนักสงฆ์ เพื่อมีการตัดสินว่าจะไล่หรือยัง เป็นสถานการณ์ที่ตัวเอกทั้งหมดต้องมาโดนหลอกให้เต็มที่ เพื่อที่จะได้หลักฐานไปยื่นให้ส่งพระมาไล่ผีในบ้าน
แถมผีที่ปรากฏก็ ไม่ใช่ผีธรรมดา กับเป็นผีที่มีแนวคิดด้าน Anti Christ อีก เรื่องจึงเข้มขันไปใหญ่
แต่เชื่อไหมว่า เรื่องนี้ไม่มีตัวละครไหนตาย และผีก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรรุนแรงถึงขั้นบาดเจ็บหนัง แต่ก็ยังคุมโทนของความเป็นหนังผี หนังสยองขวัญได้อย่างหายใจไม่ทั่วท้อง นั่นหมายความว่า ถ้าผู้กำกับ และ บทไม่เจ๋งจริง มันจะทำได้เหรอ?
ฉากจบของเรื่องมีการ นำเสนอภาพจริงๆ ของครอบครัว Warren และ Perron ไปจนถึงห้องเก็บของที่เป็นพิพิธภัณฑ์ของต้องสาปของพระเอกที่มีจริงๆ ยิ่งทำให้เรารู้สึกกลัวมากขึ้นเพราะมันเป็นเรื่องจริง
ครอบครัว Perron
Ed และ Lorraine Warren
ทฤษฏีที่ผมชอบมาก คือ ทฤษฏีปิศาจ 3 ข้อ นั่นคือระยะของการสิงเข้าร่างเพื่อคุกคามมนุษย์ ซึ่งจะมี
- Infestation การแทรกซึมเข้าสู่เป้าหมาย ผ่านสิ่งของต่างๆ อย่างในหนังจะเป็นของเล่น ตุ๊กตาผู้หญิงเพื่อเข้าใกล้เหยื่อ
- Oppression การคุกคามโดยการก่อกวนให้เหยื่อหวาดกลัว และอ่อนแอลง เพื่อไปสู่ขั้นสุดท้ายเมื่อเหยื่อพลังชีวิตอ่อนแอจากความกลัว
- Possession การเข้าสิง
คะแนน: 10/10
ยอดเยี่ยมมากสำหรับหนังเรื่องนี้